โผล่อีก ! บ่อนพนันปาเป้ายิงเป้าร่วม 10 ร้านเต็มปากทางเข้าหน้าวัดดังขุนหาญ เด็กเยาวชนเข้าไปเล่นพนันคึกคัก
14 ต.ค. 2566, 05:09
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 13 ต.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีประชาชนชาว อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า ได้มีการลักลอบเปิดบ่อนพนันปาเป้า ยิงเป้า ที่บริเวณปากทางเข้าวัดดังแห่งหนึ่ง เขต ต.พราน อ.ขุนหาญ จึงได้เดินทางไปทำการตรวจสอบตามที่ได้รับร้องเรียน เมื่อไปถึงพบว่า มีร้านเปิดให้เล่นพนันปาเป้า ยิงเป้า โยนห่วง จำนวนประมาณ 10 ร้าน อยู่ข้างปากทางเข้าวัดชื่อดังแห่งหนึ่งของ ต.พราน ทุกร้านจะมีการนำเอาตุ๊กตาขนาดใหญ่มาแขวนไว้หน้าร้านเพื่อเป็นการเรียกร้องความใจจากเด็ก วัยรุ่นและคนหนุ่มสาวให้เข้ามาเล่นพนันปาเป้าและยิงเป้า มีการประกาศเชิญชวนเด็กและประชาชนทั่วไปที่เดินผ่านไปมาเพื่อเชิญชวนให้เข้ามาเล่นพนันกันอย่างคึกคัก โดยการเล่นปาเป้าจะกำหนดราคาตามขนาดตัวตุ๊กตา เช่น 3 ดอก 20 บาท 1 ชุด 20 บาท 3 ชุด 50 บาท โยนตก 1 กระป๋องรับ 1 ตัว 20 บาท ยิงเป้า 10 ลูก 20 บาท เป็นต้น ซึ่งปรากฏว่า มีเด็กและเยาวชนเข้าไปเล่นพนันปาเป้าและยิงเป้าเพื่อหวังเอารางวัลตุ๊กตาขนาดใหญ่กันอย่างเต็มที่
จากการสอบถามประชาชนคนหนึ่งของ ต.พราน อ.ขุนหาญ ทราบว่า ที่หมู่บ้านแห่งนี้มีการจัดงานแซนโฏนตา และมีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ระหว่างวันที่ 7 – 15 ต.ค.66 โดยร้านเล่นพนันปาเป้าทั้งหมด ได้มาเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 66 เป็นต้นมา ในแต่ละวันมีบรรดาเซียนพนันรุ่นจิ๋วพากันมาเล่นพนันปาเป้ากันจำนวนมาก โดยที่ไม่มีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบว่ามีการดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่แต่อย่างใด อีกทั้งสถานที่ลักลอบเล่นพนันอยู่ติดกับปากทางเข้าวัดชื่อดังด้วย
ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามเรื่องนี้จาก พ.ต.อ.พฤทธิ์ บุญปก ผกก.สภ.ขุนหาญว่า ร้านที่เปิดให้บริการเล่นพนันปาเป้า ยิงเป้าที่บริเวณดังกล่าวมีการดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร ผกก.สภ.ขุนหาญ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนจะได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตร.สายตรวจเข้าไปทำการตรวจสอบว่ามีการดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ขณะนี้ตนกำลังเดินทางมาร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมศพอยู่ที่ อ.เมืองศรีสะเกษ ซึ่งตนจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ ตร.ลงไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วนที่สุดแล้วจะแจ้งให้ทราบ หากพบว่ามีการลักลอบเล่นพนันโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตนจะดำเนินการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
ต่อมาเวลา 20.15 น. วันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปทำการตรวจสอบบริเวณที่มีการลักลอบเล่นพนันปาเป้า ยิงเป้าอีกครั้งพบว่า ร้านที่เปิดให้เล่นพนันทุกร้านได้มีการนำเอาผ้าใบและอุปกรณ์ต่าง ๆ มาปิดหน้าร้านของตนเองไว้ โดยภายในร้านยังคงมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นพนันอยู่เต็มร้านเช่นเดิม และมีบรรดาเจ้าของร้านพากันมายืนจับกลุ่มกันอยู่หน้าร้าน โดยต่างพากันกล่าวว่า เคลียร์ทุกฝ่ายแล้วทำไมต้องมาถูกสั่งปิดร้านอีก ทำให้พวกตนที่เป็นคนทำมาหากินขาดรายได้ อีกทั้งเงินค่าใช้จ่ายที่เคลียร์ไปแล้วจะทำอย่างไร เนื่องจากว่า พวกตนไม่ได้เปิดร้านให้บริการเล่นพนันปาเป้า ยิงเป้าทำให้ขาดรายได้จำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า การปล่อยให้มีการจัดการเล่นการพนันเอาทรัพย์สินกัน เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายมาตรา 4 และมาตรา 4 ทวิ ประกอบมาตรา 5 และมาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.การพนัน 2478 ซึ่งตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 12 ได้บัญญัติว่า “ผู้ใดจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรง หรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่น ซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน หรือรับอนุญาตแล้ว แต่เล่นพลิกแพลง หรือผู้ใดเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่น อันขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎกระทรวงนั้น” ลักษณะยิงเป้า ปาลูกโป่ง ปิงโก เป็นการพนันบัญชี ข. มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป จนถึง 3 ปี ปรับตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไปจนถึง 5,000 บาท