แพทย์เผยผลชันสูตร "เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน" เสียชีวิต หลังหกล้ม-ซี่โครงร้าว-ปอดบวม
2 พ.ย. 2566, 12:16
สำนักข่าว “บีบีซี” รายงานว่า ศาลไต่สวนชันสูตรพลิกศพเมืองเชสเชียร์ ได้ไต่สวนสาเหตุการเสียชีวิตของเซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ตำนานนักฟุตบอล ทีมสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ ซึ่งเสียชีวิตในวัย 86 ปี เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2566
แจ็กเกอลีน เดวอนิช แพทย์ชันสูตรอาวุโส ให้ข้อมูลต่อศาลว่า ชาร์ลตันเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เนื่องจากก่อนหน้าไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแม็คเคิลสฟิลด์ เจเนอรัล นั้น ชาร์ลตัน พักอยู่ที่ “เดอะ วิลโลว์” ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่มีอาการสมองเสื่อมที่เมืองนัตส์ฟอร์ด ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม โดยพบว่า ก่อนเสียชีวิตไม่นาน ชาร์ลตันได้หกล้มขณะลุกจากเก้าอี้ ทำให้ตัวไปกระแทกขอบหน้าต่าง เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ของศูนย์ได้ทำการเช็กร่างกาย และสรุปว่าไม่พบอาการบาดเจ็บภายนอก และยังเคลื่อนไหวได้ปกติ แต่หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่พบว่า หลังของชาร์ลตันมีอาการบวม จึงรีบเรียกหน่วยฉุกเฉิน และส่งตัวเขาไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ ก่อนย้ายไปโรงพยาบาลแม็คเคิลสฟิลด์ เจเนอรัล
ผลการเอ็กซ์เรย์และซีทีสแกน พบว่า ชาร์ลตันมีอาการกระดูกซี่โครงร้าว นำไปสู่อาการปอดบวม โดยย้อนไปเมื่อเดือนกันยายน เขาก็เพิ่งติดโควิดมา แพทย์แนะนำว่า เขาควรรับการดูแลสำหรับผู้ป่วยระยะสุดท้าย ซึ่งชาร์ลตันเสียชีวิตหลังจากนั้นอีก 5 วัน โดยผลชันสูตรระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเป็นอาการเกี่ยวกับปอด การหกล้ม และสมองเสื่อมประกอบกัน
ด้านทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ออกแถลงถึงพิธีการรำลึกอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในวันจันทร์ 13 พฤศจิกายน ในเวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 21.00 น.(เวลาประเทศไทย) โดยขบวนศพของตำนานรายนี้จะเคลื่อนผ่าน โอลด์ แทรฟฟอร์ด เพื่อร่วมรำลึกถึงช่วงเวลาของแข้งรายนี้กับสโมสร และเปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้ร่วมอำลาเป็นครั้งสุดท้าย
สำหรับพิธีศพจะจัดขึ้นเป็นการส่วนตัวของครอบครัวและได้มีการร้องขอความเป็นส่วนตัวในบริเวณโดยรอบสถานที่จัดงาน ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนของพิธีการและขบวนศพ หลังจากนี้จะมีการแจ้งเป็นลำดับภายหลัง
ตลอดอาชีพค้าแข้งในทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 17 ปี ชาร์ลตัน สร้างผลงาน ทำไป 249 ประตูจากการลงเล่น 758 นัด นั่นทำให้ ชาร์ลตัน เป็นผู้เล่นอันดับ 2 ที่ผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของสโมสรรวมไปถึงลงสนาม พร้อมกันยังคว้าแชมป์ลีก 3 สมัย, ยูโรเปี้ยน คัพ 1 สมัย และเอฟเอ คัพ 1 สมัย ซึ่ง เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน คือผู้รอดชีวิตในโศกนาฎกรรมมิวนิคเมื่อปี 1958 ที่เพื่อนร่วมทีมยูไนเต็ดเสียชีวิตไปถึง 8 ราย