วันที่ 14 ต.ค. 62 จากกรณีที่มีการแชร์ในโลกโซเชียลโดยใช้เฟสบุ๊คชื่อดวงกมล เกาะใหญ่ แชร์ภาพ ชายหนุ่มถูกลวดขึงกลางถนน เหตุเกิดที่ หมู่ 8 กุ่มหัก อ.หนองแค จ.สระบุรี ตรงข้าม ต.หนองโรง เกือบถึงร้านยายควร ลวดขึงปาดคอ และข้อความเตือนระวัง ในพื้นที่ดังกล่าวเกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก

ผู้สื่อข่าว ONB news ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านชายผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นบ้านไม่มีเลขที่ ม.1 ต.หนองโรง อ.หนองแค จ.สระบุรี พบนายสายันต์ ทัศนแก้ว อายุ 24 ปี และนางสาวดวงกลม เกาะใหญ่ อายุ 22 ปี ภรรยาของนายสายันต์ โดยนายสายันต์ได้ชี้บาดแผลเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 19.30 น.ของวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา

 

 

 

 

 

 

 

นายสายันต์ ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนเองกำลังขับรถออกจากบ้าน  พอตนขับรถมาได้ครึ่งทางก่อนถึงที่เกิดเหตุ ตนกำลังจะหยิบโทศัพท์จังหวะหันตัวพอดี ลวดได้บาดเข้าที่ปากของตน   ตนเองมองไม่เห็นว่ามีลวดขึงอยู่ เลยทำให้โดนเข้าที่ปากเต็มๆ โชคดีที่ตนเองขับรถไม่เร็วมาก  พอตนเองโดนลวดที่ขึงอยู่บาด จึงทำให้ตนหงายท้องรถจักรยานยนต์เกือบจะล้ม แต่ดีที่ตนเองประครองรถมาจอดไว้ได้  ขณะนั้นมีเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งเห็นพอดี เลยลงมาช่วยเหลือตนเอง  ตนเลยไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ และแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ตนเองจึงได้เดินทางไปโรงพักเพื่อลงบันทึกประจำวัน หลังจากนั้นจึงได้ไปโรงพยาบาล  ตนคิดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะประสงค์ เพื่อชิงทรัพย์มากกว่า เพราะตนเองเคยได้ยินข่าว 2-3 ครั้งแล้ว คล้ายๆกับเหตุการณ์ของตนเอง แต่เหตุการณ์นั้นน่าจะเป็นเอ็นไม่ใช่ลวดแบบนี้  ตนเองอยากจะฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนร้ายให้ได้เร็วๆ จะได้ไม่ต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับผู้อื่นอีก

ทางด้านนางสาวดวงกลม ได้เล่าต่ออีกว่า แฟนตนเองได้โทรมาหาบอกว่า เกิดอุบัติเหตุ ตนเองตกใจจึงได้รีบเดินทางไปยังที่เกิด พอไปถึงตนเองเห็นแฟน อยู่ในสภาพรถล้ม มีเลือดออกที่บริเวณปากและคอเป็นรอยลวด  ตนเองได้พาแฟนไปแจ้งความไว้ และไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็คร่างกาย  ช่วงนั้นแฟนกำลังจะออกไปหาพี่ชายที่ตลาด แฟนตนเองขับรถไม่เร็ว แต่ลวดขึงขวางถนนทั้ง 2 ฝั่งเลย  ขณะนั้นรถของแฟนตนเองได้ล้ม  และได้มีเด็กวัยรุ่นมาช่วย  พอแฟนตั้งสติได้จึงได้รีบโทรมาหาตนเอง ในที่เกิดเหตุเห็นลวดขึงถนนอยู่ 2 ฝั่ง เหมือนลวดขาดออกจากกัน  มีผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านออกมาดู ส่วนลวดผู้ใหญ่บ้านน่าจะเก็บไว้ อยากจะฝากถึงหน่วยราชการ ให้ช่วยดูแลเส้นทางตรงนี้ด้วย เพราะมันไม่มีไฟ และกล้องวงจรปิดเลย เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 3