เมื่อเวลา 22.00น.วันที่ 28 พ.ย.66 พ.ต.ท.ธนาธรณ์ พันธุ์ชู สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุพบศพผู้เสียชีวิตในบ้านเลขที่ 179/16 ถนนเทวบุรี หมู่ 7 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง นครศรีธรรมราช เบื้องต้นทางญาติสงสัยว่า อาจจะถูกทำร้ายร่างกาย หลังรับแจ้งพร้อมด้วย พ.ต.ท.วิรัตน์ แท่นทอง รอง ผกก.หน.พนักงานสอบสวน,พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ณ อุบล รอง ผกก.สส.,พ.ต.ท.ณัฐภัทร พุทธังกุโร สว.สส.,ตำรวจชุดสืบสวน,ตำรวจพิสูจน์หลักฐานนครศรีธรรมราช,แพทย์เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช,จนท.กู้ภัยนคร มูลนิธิธรรมสงเคราะห์เต๊กก่าจีคุงเกาะ ไปที่เกิดเหตุ

เมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านปูน 2 ชั้น ภายในห้องนอนชั้น2 พบศพผู้เสียชีวิตนอนตายอยู่บนเตียงนอนในชุดนุ่งกางเกงขาสั้นตัวเดียวสีแดงไม่สวมเสื้อ นอนตะแคงกอดหมอนข้าง สภาพศพมีบาแผลเป็นรูที่บริเวณที่โหนกแก้มซ้ายมีเลือดไหล และที่ตาซ้ายมีคราบเลือดติดอยู่ และแผลที่นิ้วมือขวาอีก1แผล สอบสวนทราบผู้ตายชื่อนายกีรติหรือเฟิร์ส ผลกล่ำ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 658/26 ถนนศรีปราชญ์ ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยแพทย์เวรตรวจชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายร่างกายบริเวณอื่นๆ แพทย์เวรระบุเสียชีวิตมาแล้วประมาณ18 - 20ชม. และในห้องนอนที่เกิดเหตุก็ไม่พบร่องรอยรื้อค้นในห้องนอนแต่อย่างใด  พบแต่เพียงถุงยารักษาโรคประจำตัวที่นายกีรติ ผู้เสียชีวิตป่วยเป็นโรคประจำตัวหลายโรค รวมทั้งโรคป่วยซึมเศร้าที่ผู้ตายต้องกินยาอยู่ตลอดเวลา

แพทย์เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราชที่ทำการชันสูตรพลิกศพ ได้เรียกนายจำลอง ผลกล่ำ อายุประมาณ55ปีและนางปราณี  ไหมพูล อายุ 53ปี พ่อและแม่ของผู้เสียชีวิตมาพูดคุยและแจ้งอธิบายผลการชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุเบื้องต้น แพทย์ระบุนายกีรติน่าจะเสียชีวิตเองจากอาการป่วยเป็นโรคประจำตัวก่อนแล้วหลังจากเสียชีวิตแล้วอาจจะถูกสัตว์ประเภทหนูหรือแมลงสาบมากัดแทะที่บริเวณแก้มและมือขวาจนเป็นแผลหลังเสียชีวิตแล้ว โดยทางแพทย์จะนำศพนายกีรติ ไปทำการผ่าศพอย่างละเอียดอีกครั้งที่แผนกนิติเวช รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้งว่ามาจากสาเหตุอะไรกันแน่ หลังจากนั้นก็จะให้ญาติไปรับศพนายกีรติรพ.รพ.มหาราชเพื่อนำศพไปจัดการตามประเพณีต่อไป ซึ่งทั้งพ่อและแม่ของผู้เสียชีวิตหลังจากฟังแพทย์อธิบายสาเหตุการเสียชีวิตแล้วไม่ติดใจสาเหตุการตาย ก่อน จนท.นำศพไปรพ.มหาราชนครศรีธรรมราชต่อไป

นางปราณี  ไหมพูล อายุ 53ปี แม่ของผู้ตายให้การว่า ปกติตนจะพักอาศัยอยู่กับลูกชายกัน2คน และไปๆมาๆ  เพราะตนต้องไปทำงานที่ อ.ลานสกา โดยจะมีญาติผู้ชายอีกคนพักอยู่อีกห้องหนึ่ง ปกติลูกชายตนป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและโรคประจำตัวโดยจะกินยารักษาเป็นประจำ ซึ่งที่ผ่านมาลูกชายตนเป็นคนเงียบไม่เคยมีปัญหากับใคร โดยก่อนมาพบศพมีญาติผู้ชายที่พักอีกห้องหนึ่งโทรมาหาว่าเห็นลูกชายปิดห้องเงียบผิดปกตินาน2วันแล้วเคาะประตูเรียกก็ไม่เปิด จึงโทรตามให้ตนมาดู เมื่อตนมาดูเคาะประตูเรียกอยู่นานก็ไม่เปิดจึงตัดสินใจใช้บันไดปีนเข้าทางประตูห้องอีกด้านหนึ่งก็พบศพลูกชายนอนเสียชีวิตปริศนาบนเตียงนอนดังกล่าว โดยพบบาดแผลที่โหนกแก้มซ้ายและนิ้วมือขวา จึงโทรแจ้งตำรวจมาที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป โดยเบื้องต้นแพทย์แจ้งตนว่าเสียชีวิตเองและบาดแผลเกิดจากถูกสัตว์กัดแทะ ซึ่งทางแพทย์ได้นำศพลูกชายไปผ่าศพอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป โดยเบื้องต้นญาติไม่ติดใจสาเหตุการตายแต่คงต้องรอผลผ่าศพของแพทย์อีกครั้งว่าเสียชีวิตเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่.