วันนี้ (3 ธ.ค.66 )ที่ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวบึงกาฬ ต.ดอนหญ้านาง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ​ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์​ นายนิพนธ์ คนขยัน ส.ส.บึงกาฬ เขต.3 นายสุวรรณา กุมภิโร ส.ส.บึงกาฬ เขต 2 พร้อมด้วยคณะลงพื้นที่ตรวจราชการ​ และรับฟังการสะท้อนปัญหาจากเกษตรกรจำนวน​ 500​ คน​ โดยตัวแทนเกษตรกรในพื้นที่ต้องการพันธุ์ข้าวที่จะให้ผลผลิตมากขึ้นต่อไร่​ อย่างมีคุณภาพ​ ราคาข้าวที่ดี​ และราคายางที่สูงขึ้น​ มอบเอกสารสิทธิ สปก. 4-01 ให้เกษตรกร​จำนวน​ 100​ ชุด

 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์​ กล่าวว่า เรื่องราคาข้าวและราคายาง​ เป็นเรื่องที่ทางกระทรวงให้ความสำคัญมาก​ เพราะเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของเกษตรกรโดยตรง​ โดยได้มีการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลแล้ว​ ซึ่งเรื่องยางพาราได้มีการดำเนินการกับยางเถื่อนอย่างจริงจัง​ ทำให้ราคาในตลาดปรับขึ้น​ และจะมีการแก้ปัญหาราคายางในระยะยาวต่อไป​ ขณะที่ในด้านการพัฒนาพันธุ์ข้าว​ ขณะนี้กำลังมีการวิจัยพันธุ์ข้าวอยู่​ หากสำเร็จก็จะทำให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น​​ พร้อมกล่าวชื่นชมเกษตรกรของ ต.ดอนหญ้านาง​ อ.พรเจริญ​ ที่สามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพ​ จำหน่ายให้กับศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวบึงกาฬ​ได้ถึงกิโลกรัมละ​ 20​ บาท​ พร้อมย้ำว่า​ ในวันที่​ 15 มกราคม​ 2567 รัฐบาลจะ kick​ off.เปลี่ยนที่​ สปก.4-01​ เป็นโฉนด​ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อเกษตรทั่วประเทศ

จากนั้นได้เดินทางไปที่ วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่กล้วยหอมทอง BK77 หมู่ 10 ต.ดอนหญ้านาง อ.พรเจริญ โดยมี นางแว่นฟ้า ทองศรี นายก อบจ.บึงกาฬ ให้การต้อนรับ ซึ่งเมื่อวานนี้ทาง ดร.ทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ก็ได้ลงพื้นที่มาก่อนล่วงหน้า เพื่อตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาการเกษตร พร้อมมอบนโยบายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และพบปะสมาชิกวิสาหกิจชุมชนฯ โดยได้ชื่นชมวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่กล้วยหอมทอง BK77 จากผลการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมในการยกระดับรายได้ของเกษตรกรในกลุ่ม แก้ไขปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน และสามารถสร้างชื่อเสียงให้แก่ผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่ โดยผลผลิตมีมาตรฐานในระดับจำหน่ายร้านสะดวกซื้อ และส่งออกต่างประเทศ ซึ่งสมาชิกวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ได้ร้องขอให้สร้างโรงคัดแยกกล้วยหอมมูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท เพราะที่ผ่านมาต้องนำกล้วยไปคัดแยกที่ จ.อุดรธานี ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และได้ร้องขอน้ำบาดาลโซล่าเซลล์ เพื่อมาให้น้ำต้นกล้วย ทั้ง 2 รายการนี้ ร.อ.ธรรมนัส ก็ได้สั่งการส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการให้แล้ว

 

จากนั้น รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจสอบการดำเนินงาน โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพารา บ้านตาลเดี่ยว ตำบลท่าสะอาด อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพาราดังกล่าวดำเนินการภายใต้โครงการส่งเสริมความโดดเด่นของผลผลิตและผลิตภัณฑ์จากภาคการเกษตรและประมง กิจกรรมการเพิ่มมูลค่าจากน้ำยางสด โดยสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดบึงกาฬ ได้รับงบประมาณ จำนวน 193,947,000.00 บาท ก่อสร้างโรงงานจำนวน 8 หลัง พร้อมเครื่องจักรดำเนินการก่อสร้างบนที่ดินของชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางจังหวัดบึงกาฬ จำกัด และก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2563 อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันโรงงานแปรรูปและครุภัณฑ์ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องที่ดิน และนายทะเบียนสหกรณ์ได้มีคำสั่งเลิกชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางจังหวัดบึงกาฬ จำกัด ทำให้คณะกรรมการดำเนินการไม่สามารถดำเนินการในการทำธุรกรรมได้

กรณีดังกล่าว โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพาราที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ จึงได้มีการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดบูรณาการกันแก้ปัญหา โดยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็รับนโยบายแล้ว โดยสรุป ชุมนุมสหกรณ์เก่าที่ถูกยุบไป จะให้มีการตั้งสหกรณ์ใหม่ คือ สหกรณ์ยางพาราบ้านตาลเดี่ยว เข้ามาเช่าพื้นที่จากกรมธนารักษ์ต่อ ดังนั้น หลังจากวันที่ 15 ธ.ค.66 ที่สหกรณ์จัดตั้งแล้ว สหกรณ์ก็จะมาเช่าที่กับกรมธนารักษ์แล้วประกอบการต่อ โดยได้สั่งการให้บอร์ดการยางแห่งประเทศไทย ให้ผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทยเข้ามาสนับสนุนโรงงาน ซึ่งต่อไปก็จะเป็นโรงงานแปรรูปยางพาราของพี่น้องชาวบึงกาฬอย่างที่ตั้งใจเอาไว้