ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังตลาดนัดวัดชากสมอ หมู่ 4ต.ดอนหัวฬ่ออ.เมืองจ.ชลบุรีได้พบกับนายลิขิต อุรางรัมย์ อายุ 32 ปี แต่งชุดหมอลำยืนร้องเพลงบ้างร้องหมอลำบ้าง โดยร้องแบบเปิดหมวกอยู่จึงเข้าไปสอบถามได้ความว่าทำงานประจำอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ชลบุรี โดยช่วงเย็นหลังเลิกงานตนจะนำอุปกรณ์ต่างๆมาร้องเพลงเปิดหมวกเพราะในช่วงนี้ที่โรงงานไม่มีโอ.ที.จึงทำให้รายได้ประจำน้อยลงไม่พอค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันซึ่งปัญหาการเงินนี้เป็นมาตั้งแต่ช่วงที่โควิคระบาดทำให้ตนต้องไปหายืมเงินเพื่อนและญาติมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันถึงตอนนี้ตนก็ยังใช้หนี้คืนไม่หมดและยังต้องไปกู้หนี้นอกระบบมาเพื่อใช้หนี้บางคนจึงทำให้สภาพคล่องทางการเงินไม่ดีตนจึงคิดว่าถ้าไม่ทำอะไรให้มีรายได้เพิ่มก็จะแย่แบบนี้ซึ่งตนเคยมีวิชาการร้องหมอลำและชุดหมอลำอยู่จึงได้หาอุปกรณ์ออกมาเปิดหมวก ซึ่งที่ไปที่มาของการที่ร้องหมอลำเป็นซึ่งนายลิขิต บอกว่าเมื่ออายุ17 ปีตอนที่อยู่บ้านจ.บุรีรัมย์ตนเคยเป็นหมอลำและออกแสดงตามงานในต่างจังหวัดมาก่อนซึ่งคณะที่เคยแสดงก็เป็นคณะเล็กๆและวิชาที่ตนเคยมีก็กลับมาช่วยให้อยู่ตนอยู่รอดถึงจะไม่มากแต่ก็พอที่จะแบ่งใช้หนี้ได้บ้างช่องทางติดต่อที่สามารถจ้างตนไปร้องเพลงตามงานต่างๆได้โดยติดต่อได้นายลิขิตอุรางรัมย์โทรศัพท์0637413980ทางด้านนายฤทธิชัย ชื่นบาน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมืองชลบุรี หุ้นส่วนเจ้าของตลาดนัด กล่าวว่า ไม่ได้เก็บค่าที่ ค่าไฟ ต่างๆเลยเพราะสงสารเศรษฐกิจแบบนี้เห็นเขามีความสามารถก็ให้เขามาร้องหมอลำหารายได้ส่วนเงินกู้นอกระบบไม่อยากให้ทุกคนไปกู้เพราะจะลำบากดูคนนี้เป็นตัวอย่างเขาสู้ชีวิตเอาความรู้ความวามารถตัวเองมาหารายได้