"สาวไทย" เล่าประสบการณ์เที่ยว "เม็กซิโก" เกือบไม่รอดชีวิต! ถูกปล้นชนิดจำฟังใจ ขอเตือนเป็นอุทาหรณ์
17 ต.ค. 2562, 15:58
เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ระทึกจากคนไทย ระหว่างไปเที่ยวประเทศเม็กซิโก เกือบไม่รอดชีวิตเพราะถูกโจรปล้นโทรศัพท์มือถือใช้ปืนจ่อศีรษะ
ผู้ใช้เฟซบุ๊กคุณ Napha Mana เผยประสบการณ์นี้เมื่อวันที่ 15 ต.ค.62 หลังจากไปเที่ยวประเทศเม็กซิโกมาสดๆร้อนๆ และหวังว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่อยากไป ให้ระมัดระวังตัว ห้ามออกไปซื้อของกินตอนกลางคืน เลี่ยงร้านอาหารที่คนน้อย อย่าวางของมีค่าบนโต๊ะอหาร และอย่าวางใจทุกอย่าง ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามอ่านได้ด้านล่าง
"เม็กซิโก ทริปเ-ี้ย ที่ใช้คำนี้เพราะหาคำอื่นแทนไม่ได้จริงๆ ขอถือว่าเป็นคำสบถไม่ได้ต้องการหยาบคายแต่อย่างใด อยากมาเเชร์ประสบการณ์ความเ-ี้ย ที่เกิดขึ้นให้เป็นอุทาหรณ์แก่ใครก็ตามที่คิดจะไป ออกตัวก่อนว่ากูมั่นหน้ามั่นใจในการเที่ยวระดับนึงเลย จากหลายปีที่เที่ยวมาก็โดนมาเยอะแล้วเหมือนกัน โดนตำรวจเรียกไปสอบที่นอร์เวย์ ที่เยอรมัน โดนกรีดกระเป๋าที่เวกัส โดนยกรถที่ซานฟรานซิสโก โดนลักกระเป๋าตังค์ในรถไฟเอเธนส์ โดนผู้ชายทั้งโบกี้จ้องเหมือนจะเข้ามาแดกที่ตุรกี โดนเพื่อนใหม่ขโมยตังตอนลุกไปห้องน้ำในเมลเบิร์น กูโดนแม้กระทั่งวัยรุ่นเมากัญชาขโมยไก่เคเอฟซีของกูที่อัมสเตอดัม
กูก็ไม่เคยกลัวหรือมีภาพในหัวฝังได้เท่าทริปนี้ที่ Mexico คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ระหว่างที่นั่งแ-กข้าวเย็น กำลังแ-ก octopus ตัวเท่าฝ่ามือ อร่อยมาก เพลินมาก ในร้านมีแค่โต๊ะกุเท่านั้น กับเชฟและเด็กเสริฟ ร้านอาหารเป็นร้านเปิดไม่มีประตู เดินเข้าออกได้สบายๆ ลมเท
กูนั่งกินอย่างมีความสุข อยู่ๆ มีผู้ชายสองคนเข้ามา คนนึงถือปืน คนนึงถือมีด ตอนนั้นกูคิดว่ามันอำ เล่นขำๆ สร้างสีสันยามค่ำคืน จนกูเห็นเชฟกับเด็กเสิร์ฟยกมือขึ้นเหนือหัวแบบว่ายอมแล้ว กูคิดในใจนี่ไม่ขำแล้วแหละ ตัวแข็งมือแข็งทำอะไรไม่ถูก จนไอคนมีปืนเดินมาหากูแล้วเอาปืนจ่อหัวกู แล้วหยิบโทรศัพท์กูไป ในใจตอนนั้นกูรู้สึกเหมือนถูกพรากคนรัก
อีเ-ี้ยเอาจริงๆ กูใช้ชีวิตประจำวันอยู่กับโทรศัพท์มากกว่ามนุษย์จริงๆ อีก ใจกูนึกอยากฉกโทรศัพท์คืนมามาก แต่ถ้ามันยิงกูมาโป้งเดียวกูตายไม่เหลือจริงๆ พ่อแม่กูที่เมืองไทยใจสลายแน่ๆ เลยได้แต่ปล่อยมันเอาไป อีเชฟเห็นกูช็อคเสียใจ เข้ามาถามกูว่าเอาชามั้ย อีเ-ร เหมือนซีนที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติชีวิตประจำวัน หลังจากนั้นรถตำรวจมาสามคัน มีตำรวจสี่คน ไม่มีสักคนที่พูดภาษาอังกฤษ กูอ่านจากสีหน้าท่าทางเหมือนมาเพื่อปลอบใจกูเท่านั้น ไม่ได้ต้องการจะตามคนร้ายหรือทำอะไรสักอย่าง
กูใช้กูเกิลคุยกับตำรวจ ตำรวจบอกกูว่าระเเวกนี้อันตราย ปล้นนี่เรื่องเด็กๆ มากวันนึงมีแปดพันเคส ยิงกันตายก็บ่อย กูเลยให้ตำรวจขับรถไปส่งที่พักอย่างช็อคๆ และหมดหวัง คืนนั้นกูนอนไม่หลับเลย ซีนที่มันเอาปืนจ่อหัวแล้วหยิบมือถือกูไปวิ่งวนซ้ำๆในหัว สุดท้ายก็ข่มตานอนพร้อมกับเสียงปืนปั้งๆดังเป็นระรอกๆ เช้าตื่นมากูยอมทิ้งที่พักที่จ่ายไปแล้วอีกคืนนึงแล้วกลับมานอนในเมือง หาที่พักใกล้ๆบ้านประธานาธิบดี เหตุการณ์คืนนั้นตอบคำถามกูได้ครบว่าทำไมทุกตารางเมตรของ Mexico city ต้องมีตำรวจ ทุกตารางเมตรจริงๆ ขนาดร้านขายขนมปังยังต้องมีตำรวจเฝ้าสองคนหน้าประตู ใครที่คิดจะมา Mexico กูขอบอกว่าอย่ามั่นใจเท่ากู หนึ่งเลย คนพูดภาษาอังกฤษไม่มีเลย เเม้กระทั่งวัยรุ่นก็พูดไม่ได้ ไม่เหมือนฝรั่งเศส สเปน หรืออิตาลี ที่ถึงแม้คนในประเทศส่วนใหญ่จะพูดไม่ได้ แต่ก็พอหาคนที่พูดได้บ้าง ถ้ามาขอจงเรียนภาษาสเปนพื้นฐาน หรือมากับคนพูดสเปนเป็น ระวังตัว ระวังของมากๆ แม้แต่โรงแรมก็ไว้ใจไม่ได้ โรงแรมที่กูอยู่ ไม่ให้กูเอากุญแจห้องของกูเองออกจากโรงแรม บอกว่าถ้าไปข้างนอกต้องทิ้งกุญแจไว้ที่โรงเเรม เพื่อsecurity ซีคิวริตี้พ่อมึง ณ จุดนั้น ชะนีขี้โมเข้าสิงกูเลย กูด่าไปทั้งภาษาไทยภาษาอังกฤษ ขู่ว่าจะเขียนรีวิวให้เหี้ยๆเลย ลงเอยด้วยการที่กูจ่ายตังค่าโรงเเรมแต่ต้องแบกกระเป๋าทุกอย่างออกไปกับกูด้วยเวลาออกไปข้างนอก ลำบากรำเค็ญขนาดไหน กลับมานอนต้องเลื่อนตู้ไปกั้นประตู กลัวมันจะโมโหที่กูไปขู่มัน แล้วมาทำร้ายกูตอนกูนอน
หลอนไปหมด ย้ำอีกทีระวังตัวระวังของมากๆ พยายามอย่าออกไปหาอะไรแ-กตอนกลางคืน หลีกเลี่ยงร้านอาหารที่ไม่มีคน อย่าวางมือถือของมีค่าไว้บนโต้ะ หรือที่ที่คนเห็นง่ายหยิบง่าย อย่าวางใจ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา แม้แต่ตำรวจก็ช่วยอะไรไม่ได้ นอกจากเข้ามาปลอบใจมึงพร้อมเสนอว่าเอาน้ำหรือโคล่ามั้ย5555555 ประเทศนี้คนเยอะ ความขัดเเย้งเยอะ คนจน คนฆ่ากัน มาเฟีย มันหลายเรื่องมากจนการปล้นจี้กลายเป็นเรื่องเล็กๆ ตอนนี้ภาพในหัวยังหลอนไม่หาย ไม่เคยคิดว่าชีวิตจะมีคนมาเอาปืนจ่อหัวกู ทำตัวไม่ถูกไม่ได้เทรนมา กลายเป็นว่ารูปทุกอย่างที่กูถ่ายในทริปนี้ หายไปแบบยังไม่ทันได้โพสท์ กูมาเที่ยวแต่ไม่มีรูป คิดถึงโทรศัพท์มากๆ P30Pro สามหมื่นกว่าบาท อยู่กับกูยังไม่ถึงครึ่งปี ก็โดนลักพาตัวไปอยู่ในตลาดมืดซะแล้ว กูไม่อวยแต่มันถ่ายรูปสวยจริงๆ คมชัด ถ่ายคอนเสิร์ต ถ่ายตอนกลางคืน ภาพคมหมดทุกภาพ
ปิดท้ายด้วยการลงรูปเซลฟี่กล้องหน้ารูปสุดท้ายที่ถ่ายจากมือถือกูที่กูไม่มีมันแล้ว ส่งรูปนี้ไปให้พ่อดู 10นาที ก่อนอีโจรเ-ี้ยจะเข้ามาหากู อยากซื้อเครื่องใหม่รุ่นเดิมก็กลัวภาพหลอน เอาไอโฟน11ดีไหม ใครอนาถใจแทนกู สามารถส่งเงินมาสมทบให้กูซื้อเครื่องใหม่ได้ กูรับจริงๆนะ กูคิดถึงการมีมือถือ กูสงสารตัวเอง555555"
ที่มา Napha Mana