ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีชายนิรนามถูกฆ่ารัดคอ มีดกรีดหน้าจับมือไขว้หลังล่ามด้วยโซ่ตรวนใช้ผ้าห่มนวมและเสื่อห่อศพทิ้งป่าละเมาะริมคลองชลประทานใกล้ประตูระบายน้ำหัววังพนังตักในพื้นที่หมู่ 8 ตำบลบางลึก อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร คนเลี้ยงวัวมาเห็นผงะหลังศพส่งกลิ่นเน่าเหม็นโร่ให้พลเมืองดีแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ

       ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ม.ค.67 หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน กก.สืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพรร่วมตำรวจพิสูจน์หลักฐานพร้อมแพทย์เร่งคลี่คลายคดีสืบหาว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหนและมีความขัดแย้งกับคนร้ายซึ่งคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 2 คน

      โดยเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดพร้อมเก็บลายนิ้วมือส่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อตรวจสอบหาข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว หลังจากนั้นด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าพบเต้นท์พักนอนห่างจากจุดพบศพประมาณ 2-3 กิโลเมตร  เบื้องต้นทราบภายหลังตำรวจลงตรวจสอบว่าเป็นของพ่อค้าขายลูกชิ้นในงานแสดงโคมไฟนานาชาติจัดขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาแต่เจ้าของเต้นท์หายตัวไป พบว่าสภาพเต้นท์ถูกรื้อค้นมีร่อยรอยใช้ของมีคมกรีดผ้าเต้นท์ หมอนข้างถูกกรีด และมีของใช้ส่วนตัวตกกระจัดกระจาย เจ้าหน้าที่เก็บไว้และหลักฐานเพื่อหาเบาะแสว่าทั้งสองกรณีมีความเกี่ยวโยงกันหรือไม่

       เจ้าหน้าที่ตำรวจพบบัตรนัดพบแพทย์โรงพยาบาลพังงาระบุชื่อนายคมคาย  แซ่ลิ้ม อายุ 36 ปี และเบอร์โทรศัพท์ในสมุดบันทึกการขายลูกชิ้นปลาทอด จึงได้โทรติดต่อสอบถามตามเบอร์โทรแต่ยังไม่สามารถติดต่อใครได้ โดยมีข้อมูลว่านายคมคาย มีภูมิลำเนาอยู่ในสามจังหวัดชายแดนใต้ออกจากบ้านมาหลายปีเพื่อเร่ขายสินค้าตามงานเทศกาลต่างๆทั่วประเทศ ซึ่งอยู่ในระหว่างสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ   แต่ขณะเดียวกันแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความคืบหน้าได้ข้อมูลบางส่วน ส่อว่าอาจจะทราบชื่อคนตายในเร็วๆนี้รอโดยผลพิสูจน์ลายนิ้วมือของคนตายทราบผลภายในบ่ายวันนี้(9 ม.ค.) 

        หากลายนิ้วมือจากศพคนตายตรงกับรายชื่อเจ้าของเต้นท์ที่สูญหาย ต่อไปต้องสืบสวนหาเบาะแสว่าผู้ตายมีปัญหากับกลุ่มคู่อริภายในงานแสดงโคมไฟนานาชาติที่หนองใหญ่หรือไม่ หรือมีคู่อริเก่าทราบว่าผู้ตายขายของในงานอาจจะตามมาล้างแค้นก็เป็นได้ หรืออาจจะมีความขัดแย้งเรื่องยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายอื่นต้องรอผลพิสูจน์ยืนยันอีกครั้งจากนิติวิทยาศาสตร์

         ขณะที่เช้าวันนี้(9 ม.ค.) มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์นำศพผู้เสียชีวิตไปส่งที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีเพื่อผ่าพิสูจน์โดยผลนำมาประกอบกับหลักฐานอื่นสืบหาตัวกลุ่มคนร้ายดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป