เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน Air4thai ของกรมควบคุมมลพิษ รายงานว่า เวลา 9.00 น. พบ PM 2.5 สูงสุดที่ อ.เมือง จ.อ่างทอง โดยตรวจวัด PM 2.5 ได้ที่ 79 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) รองลงมา คือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ตรวจวัด PM 2.5 ได้ที่ 78.6 มคก./ลบ.ม. โดยทั้งสองพื้นที่อยู่ในระดับสีแดง หรือมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกทม. เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่น PM 2.5 ตรวจวัดได้ 41.9-73.1 มคก./ลบ.ม. พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 70 พื้นที่ โดย 3 พื้นที่ที่มีค่า PM 2.5 สูงสุดในกทม. ได้แก่

1. เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 73.1 มคก./ลบ.ม.

2. เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 72.1 มคก./ลบ.ม.

3. เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 71.8 มคก./ลบ.ม.

ในช่วงวันที่ 10-18 ม.ค.67 การระบายอากาศอ่อนถึงดี และเกิดภาวะอากาศปิดสลับเปิดใกล้ผิวพื้น มีโอกาสเกิดฝนตก ส่งผลให้การสะสมฝุ่นละอองค่อนข้างทรงตัวถึงดีขึ้นเล็กน้อย และคาดการณ์วันนี้มีเมฆบางส่วนกับมีหมอกในตอนเช้า

จากการตรวจสอบข้อมูลจุดความร้อน (hotspot) ผ่านดาวเทียม จากหน่วยงาน NASA พบจุดความร้อนที่ดาวเทียม ตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่กทม. จำนวน 1 จุด เวลา 01.45 น. แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา (อยู่ระหว่างการประสานตรวจสอบจุดเผาไหม้)

สำหรับคุณภาพอากาศระดับสีส้ม ถือว่าเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไป ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรม หรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก และควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา