เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหลังหนึ่ง ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.นรินทร์  บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ได้สั่งการไห้ พ.ต.ท ณัฏฐพล  วรรณทวี สว.สส. สภ.กันทรลักษ์ ร.ต.อ.กฤษฎ์  อนันต์ รอง สว สส สภ.กันทรลักษ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน สภ.กันทรลักษ์ได้เดินทางไปตรวจสอบบ้านหลังนี้ เนื่องจากมีการร้องเรียนผ่านเพจชื่อดังให้นักข่าวลงไปตรวจสอบว่า มีการลักลอบเล่นการพนันออนไลน์ มีการลักลอบจำหน่าย ยูสเซอร์ สำหรับเล่นการพนันออนไลน์ ในเขตพื้นที่หมู่ 18 ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ  มีการถ่ายภาพบ้านไปประกอบภาพข่าวด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตร.ได้ทำการตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว โดยลักษณะภาพบ้านตรงตามภาพที่มีการนำเอาไปลงประกอบในเพจชื่อดัง

เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน สภ.กันทรลักษ์ ได้พบกับ นายทองพูน อายุ 70 ปี ได้แสดงตนว่าเป็นผู้ครอบครองสถานที่ดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตร.ได้แสดงตัวและแจ้งให้นายทองพูนทราบว่า มีเพจชื่อดังนำเสนอข่าวว่า บ้านหลังนี้เป็นสถานที่ลักลอบเล่นการพนันออนไลน์ ซึ่งนายทองพูนเมื่อได้รับทราบข่าวดังกล่าวก็หัวเราะเสียงดังด้วยความตลกขบขันสุดขีดว่า เป็นไปได้อย่างไรเพราะว่าตนไม่เคยมีพฤติกรรมดังกล่าวเลย  ที่บ้านของตนเป็นสถานที่รับตัดผมซึ่งปกติจะมีประชาชนหรือกลุ่มวัยรุ่นเข้ามานั่งเล่น และบางคนเล่นเกมออนไลน์ ซึ่งบ้านของตนเองไม่เคยมีการลักลอบเล่นการพนันในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด จากนั้น นายทองพูน ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นด้วยความสมัครใจ ซึ่งจากการตรวจค้นพบว่า สถานที่ดังกล่าวเป็นบ้านโล่ง มีการกั้นห้องให้มิดชิดเพียง 1 ห้อง และ ใช้เป็นที่หลับนอน ตรวจค้นภายในห้องและบริเวณโดยรอบ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายหรือยูสเซอร์แผ่นกระดาษตามลักษณะที่ได้ลงในเพจชื่อดังแต่อย่างไร   

พ.ต.อ.นรินทร์  บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน ได้เดินทางไปที่บ้านนายจเด็จ สาลี ทำหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 18 ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ สอบถามเกี่ยวกับ บริเวณบ้านนายทองพูนว่า มีการลักลอบเล่นการพนันหรือจำหน่าย ยูสเซอร์ในการเล่นการพนันหรือไม่ ซึ่งนายจเด็ดแจ้งว่า ที่บริเวณดังกล่าวมีวัยรุ่นเข้าออกเป็นประจำและเคยแจ้งกำนันให้ทราบเมื่อประมาณเดือนธ.ค.2566 ซึ่งเป็นช่วงโครงการชุมชนยั่งยืนของ ต.กระแชง เพื่อทำการตรวจสอบ จากนั้น หลังจากที่มีโครงการชุมชนยั่งยืนไม่พบว่ามีการลักลอบเล่นการพนันในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด  ซึ่งจากการที่เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบข่าวตามเพจดังกล่าว ไม่พบว่ามีการกระทำความผิดในบริเวณดังกล่าว   จึงได้ทำบันทึกและตรวจสอบเก็บไว้เป็นข้อมูลในการติดตามกลุ่มผู้กระทำความผิดในเขตพื้นที่รับผิดชอบและหากพบว่ามีการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว ตนจะได้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไป