วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 พ.ต.ท.ปิยะพงษ์  องอาจ รอง ผกก.ตม.จว.สมุทรสาคร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ ตม.จว.สมุทรสาคร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี ได้ร่วมกันจับกุม น.ส.สุดสะดา อายุ 30 ปี สัญชาติลาว

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) เพื่อการค้าและการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยไม่ได้รับอนุญาต”, “สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิดจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) เพื่อการค้าและการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยไม่ได้รับอนุญาต”, “รับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำความผิดเพื่อประโยชน์ หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือเพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษ” ตามหมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานี ที่ 281/2566 ลงวันที่ 28 ก.ย. 2566

โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมฯ ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับ น.ส.สุดสะดา บุคคลคนต่างด้าวที่มีหมายจับและต้องการตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย จากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี จึงได้ออกทำการสืบสวนติดตามตัวตลอดมา จนกระทั่งทราบว่า น.ส.สุดสะดา จะมาติดต่อธุระส่วนตัวบริเวณที่เกิดเหตุ ในพื้นที่ ตม.จว.สมุทรสาคร สถานีย่อยกระทุ่มแบนต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมฯ จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบ พบว่ามีตำหนิรูปพรรณตรงตามบุคคลที่แสดงในหมายจับ จึงได้แสดงตนและขอตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทาง แสดงหมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานีฯ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาและให้ผู้ต้องหาตรวจดูด้วยตนเอง รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน