ที่อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี สติกลับมาแล้ว ลูกชายเสพยาหนักจนกลายเป็นคนเร่ร่อน หายจากบ้านนานกว่า 5 เดือนพ่อแม่ขี่รถมอเตอร์ไซด์ออกตามหาเจอคุ้ยขยะในตัวเมืองห่างจากบ้านเกือบ 80 กม. พ่อแม่หัวใจสลายเรียกชื่อลูก เจอตอกกลับ ใครลูกมึงงง ขอร้องตร.ช่วยจับตัวส่งรพ.รักษาอาการ ล่าสุดวันนี้หนุ่มเสพยากลายเป็นคนเร่ร่อน สติสตังค์กลับคืนมาแล้ว พ่อแม่พากลับมาบ้านที่อ.บ้านดุงแล้ว นายหนึ่งคนบ้าชายเร่ร่อนเพราะยาสติกลับมาแล้ว เปิดใจ ผมจำพ่อแม่ได้แล้วครับ เรียกชื่อพ่อแม่และน้องชายจำได้ทุกคน พ่อและแม่สุดดีใจบอกเหมือนได้ชีวิตลูกชายใหม่กลับคืนมา ฝากถึงรัฐบาลจัดการยาเสพติดให้เด็ดขาด ป.5-ป.6 เสพยาเต็มทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว

 วันนี้ (3 มี.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีนายธนิต สุคำภา อายุ 42 ปีและน.ส.สุภาวรรณ วงวิภา อายุ 40 ปี ชาวบ้านโนนสีทอง หมู่ 7 ต.บ้านชัย อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ขับรถจักรยานยนต์มาไกลจากอ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เข้ามาในตัวเมือง ระยะทางกว่า 80 กม.เพื่อมาตามหาลูกชาย ชื่อนายโชคชัย สุคำภา หรือชื่อเล่น หนึ่ง อายุ 23 ปี  ที่หายออกจากบ้านกว่า 5 เดือน ตั้งแต่เดือนก.ย.66 พ่อและแม่ประกาศตามหาลูกชายจากสื่อโซเซียล และออกตามหาไปทุกหนทุกแห่งก็ไม่เจอ สุดท้ายมีเพื่อนบ้านมาบอกว่า เจอนายหนึ่งเป็นคนเร่ร่อนในตัวเมือง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้ง พ่อและแม่ดั้นด้นขี่รถจักรยานยนต์จากบ้านเกิดเข้ามาหาลูกชายในตัวเมือง สุดท้ายเจอโดยบังเอิญนอนขดอยู่ในวัดมัชฌิมาวาสสุดดีใจได้เจอหน้าลูกชายแล้ว แต่พ่อแม่ต้องใจสลายเมื่อไปเรียกชื่อลูกชาย น้องหนึ่งๆ กลับบ้านนะลูก เจอลูกชายตอกกลับ บ้ะ สองผัวเมียเนี่ย ใครลูกมึงงง เจอคนบ้าที่ไหนจะมาเรียกว่าเป็นลูกได้ไง เจ้าตัวบอกผมชื่อเวิน ไม่ใช่ชื่อหนึ่ง จากนั้นก็เดินหนีไปคุ้ยขยะ  พ่อและแม่เดินตามขอให้ลูกกลับบ้าน แต่ลูกไม่ยอมไป แถมร้องตะโกนให้พ่อแม่หนีไปบ่นและโวยวาย เจอคนบ้าคนเก็บขยะจะมาเรียกว่าเป็นลูกไปทั่วไม่ได้ ดูแล้วลูกชายคงสติไปหมดแล้วคงกลับบ้านยาก พ่อและแม่ต้องขอร้องเจ้าหน้าที่ตร.สายตรวจสภ.เมืองอุดรธานี เข้าไปพูดคุยกับนายหนึ่งให้ พอตร.สายตรวจมาถึง นายหนึ่งมีอาการของขึ้นตกใจ บอกกับตร.ว่า พวกเจ้าเป็นตร.จะมารังแกประชาชนได้ไง ตร.ก็บอกว่า จะพาไปโรงพักก่อน แต่นายหนึ่งไม่ยอมไป พยายามจะดิ้นสุดฤทธิ์เพื่อให้หลุดจากเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ฯก็คุมตัวขึ้นรถสายตรวจ แต่นายหนึ่งตะโกนลั่น จะมาว่าเป็นลูกได้อย่างไร กูวว์ไม่ใช่ลูกมึงงงงง ฮ่วย!!!! เห็นผีบ้าสกปรกกจะมาเรียกว่าเป็นลูก กูไม่ไปรักษากูไม่ได้กูเป็นผีบ้า สุดท้ายตร.อุ้มขึ้นรถสายตรวจอย่างทุลักทุเล เพื่อเอาตัวไปรักษาที่รพ.ศูนย์อุดรธานีก่อน

ล่าสุดอาการนายหนึ่งดีขึ้นสติกลับคืนมาแล้ว พ่อและแม่ได้พามายังบ้านเกิดที่บ้านโนนสีทอง ต.บ้านชัย โดย ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับสองสามีภรรยาที่ออกตามหาลูกชายนานกว่า 5 เดือนจนกลายเป็นเร่ร่อน เมื่อไปถึงพบว่า บ้านอยู่ไกลจากหมู่บ้านอยู่กลางทุ่งนา ก็พบกับนาย นายธนิต สุคำภา อายุ 42 ปีและน.ส.สุภาวรรณ วงวิภา อายุ 40 ปี และนายหนึ่งลูกชายนั่งอยู่บันไดของบ้าน  โดยนายหนึ่งมีอาการไม่เป็นบ้าแล้ว สติคืนมา ยกมือไหว้สวัสดีกับแขกที่มาเยือน ส่วนสีหน้าพ่อและแม่ดีใจ ยิ้มได้ รวมถึงน้องๆ อีก 2 คนก็ดีใจด้วยที่เห็นพี่ชายกลับมาบ้าน ผุ้สื่อข่าวลองให้นายหนึ่งเรียกชื่อพ่อแม่และน้อง นายหนึ่งก็เรียกชื่อได้หมดทุกคน ชี้ไปที่น้องคนหนึ่งชื่อน็อต อีกคนชื่อนัท อีกคนชื่อมิล อยู่กรุงเทพฯ แม่ก็เลยชี้บนบ้านคนนั้นคือใคร นายหนึ่งก็บอกว่า นายเฒ่า แม่ก็ดีใจที่ลูกชายจำได้ทุกคน  จากนั้นแม่ก็ตัดเล็บให้ลูกชายทั้งเล็บมือและเล็บเท้า โดยมีน้องสองคนเฝ้าดูพี่ชายด้วยความห่วงใย สักพักนายหนึ่งบอกว่า แม่ผมยาวอยากไปตัดผม โดยแม่จะพาเข้าไปตัดผมที่ร้านตัดผมในหมู่บ้าน 

ก่อนไปตัดผม นายหนึ่งจากคนบ้าเพราะยาเสพติดสติกลับคืนมาไม่เป็นคนบ้าอีกแล้ว เปิดใจกับนักข่าวว่า ที่ผมไม่กลับบ้านเพราะมียักษ์อยู่ประตูในวัดมัชฌิมาวาส อยากให้ผมไปดูดร่าง ให้ดูดออกเหมือนทราย พูดไปก็ยิ้มไปเหมือนผมละเมอไปเอง ตอนนั้นที่เดินออกจากบ้าน ก็มีเหมือนคนมาตีที่ศีรษะ จากนั้นผมก็เบลอจำอะไรไม่ได้ ตอนนั่งอยู่ก็มีเหมือนคนพูดอยู่ข้างๆ  ตอนนี้ดีใจที่ได้กลับมาบ้าน ผมจำพ่อและแม่น้องๆ ทุกคนได้หมดเลยครับ จำพ่อได้ครับ จำแม่ได้ครับ ผมจะไม่หนีออกจากบ้านอีกแล้วครับ นายหนึ่งกล่าวกับนักข่าว 

ทางด้าน น.ส.สุภาวรรณ  แม่ของนายหนึ่ง บอกว่า วันนี้ดีใจมากที่ได้เจอลูกชาย เหมือนได้ชีวิตลูกชายคนใหม่กลับบ้าน หลังจากหายจากบ้านนานกว่า 5 เดือน หลังจากเมื่อวานไปตามลูกชายที่เป็นคนบ้าคนเร่ร่อนในเมืองอุดร เขาจำพ่อแม่ไม่ได้ ก็เลยขอร้องให้ตร.ไปช่วยจับเอาตัวไปส่งโรงพยาบาลก่อน ตอนที่นอนอยู่โรงพยาบาลเขาหนีออกจากโรงพยาบาลไปอยู่ที่วัดมัชฌิมาวาสเหมือนเดิม รปภ.ของโรงพยาบาลไปตามมาให้แล้วหมอฉีดยา พอเขาฟื้นขึ้นมา เรียกชื่อแม่ แม่ก็ดีใจสติลูกกลับคืนมาแล้ว ตอนนั้นน้ำตาไหลเลย ก็เลยให้โทรแจ้งให้นายวีระพลฯ บ้านดุงอัพเดตมารับมาส่งที่บ้านมาถึงประมาณ 4 ทุ่ม มาถึงบ้านเขาก็เข้าไปนอน นอนกอดน้องชายด้วย 

หากย้อนไปเมื่อวันที่ 20 ก.ย.66 ลูกชายที่ติดยาเสพติดได้ไปรายงานตัวที่ศาลจ.อุดรธานี ก็บอกลูกให้ไปรายงานตัวนะลูก พ่อให้เงินติดตัวไป 200 บาท จากนั้นไม่เห็นลูกอีกเลย ตอนแรกเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ฯ จับติดคุกหรือเปล่า เพราะเขาหนีรายงานตัวมาครั้งสองครั้ง ใจหนึ่งก็คิดว่าเขาคงกลับบ้านเพราะลูกชายเคยหนีจากบ้านไปเป็นเดือนก็เคยกลับมาบ้านเอง อีกใจก็คิดว่าลูกชายจะไปหางานทำในตัวเมืองอุดร หรืออาจจะหนีไปทำงานกรุงเทพ หรือชลบุรี แต่นานๆ เข้าหลายเดือนลูกชายเงียบไม่กลับบ้าน หัวอกพ่อก็แม่ก็เป็นห่วงลูกชาย ประกาศตามหาทางโซเซียล เวลาไปขายไอศรีมก็ถามชาวบ้านก็ไม่เห็น ที่ห่วงเพราะเขาเป็นลูก ตนเองมีลูก6 คน ตาย 2 คนเหลือ 4 คน นายหนึ่งเป็นลูกชายคนโต ก่อนที่จะติดยาเสพติด ลูกชายคนนี้ถือเป็นเสาหลักช่วยพ่อช่วยแม่ทำงานก็ว่าได้ ทำทุกอย่าง เขาเป็นคนสุภาพเรียบร้อย พูดกับพ่อและแม่ไพเราะ แต่มาเสียคนเพราะยาเสพติด

ตอนที่มีคนมาบอกว่าเจอลูกชายเป็นคนเร่ร่อนในเมือง พ่อและแม่ก็รีบขี่รถมอเตอร์ไซด์ไปหาเลยเมื่อวาน แต่ไปเพราะรีบรถก็ล้มอีก พอเข้าไปในเมืองคือตอนแรกไปไม่รู้ว่าลูกอยู่ที่ไหนนะ ก็ขี่ตระเวนไปเรื่อยๆ จนสามีไม่รู้คิดอะไรบนถึงอุ๋งอิ๋งสาวน้อยเพชรบ้านแพง เพราะเห็นว่าใครขออะไรก็ได้ แต่ตนเองไม่เชื่อ แต่พอสามีขออุ๋งอิ๋ง ก็พากันขี่ไปในวัดก็เจอลูกชายเลย ดีใจมาก เรียกชื่อลูก หนึ่งหนึ่งกลับบ้านนะลูก แต่ลูกก็ตอกกลับมา พวกเจ้าเป็นใคร มึงงงงเป็นบ้ารึมาตามหาลูกอยู่นี่ ลูกบอกว่ากูว่ากูเป็นบ้า ก็หาว่าพ่อและแม่เป็นบ้าเสียอีก ตอนนั้นแม่ร้องไห้เลยเพราะลูกจำแม่ไม่ได้ ลูกก็ร้องตะโกนบอกอีก มึงงงเป็นบ้ารึมาร้องห่มร้องไห้อะไรอยู่นี่ เขาก็เดินหนี พ่อก็กล่อมให้กลับบ้านเขาก็ไม่ยอมกลับ สุดท้ายตร.มาช่วยไปส่งโรงพยาบาล หมอฉีดยาให้ก็เลยพากลับบ้าน เหตุเพราะลูกชายติดยาเสพติดแท้ๆ อยากฝากถึงนายกช่วยจัดการยาบ้าให้ที เอาหนีไปให้ไกลเยาวชนหน่อย ตอนนี้เต็มบ้านเต็มเมืองแล้ว  ขนาดเด็กตัวเล็กๆ ป.5 ป.6 ติดยากันไปหมดแล้ว

ความรู้สึกเมื่อวาน บอกตรงๆ ลูกจำแม่ไม่ได้ โดนลูกด่า แม่น้ำตาไหลทันที มองไปหาสามี สามีก็น้ำตาไหล แต่วันนี้ได้ลูกกลับคืนมาแล้ว ดีใจถึงที่สุด ลูกมีกี่คนก็รักทุกคน พ่อและแม่ตายแทนลูกได้ จะคอยดูแลเขาให้ดีและไม่อยากให้ไปยุ่งยาเสพติดอีก แม่พูดไปน้ำตาไหลไป