วันนี้ ( 6 มี.ค.67 ) ที่สำนักงานอัยการมีนบุรี ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนพร้อมทนายความ ในคดีครอบครองบ้านปรปักษ์ เดินทางมาฟังคำสั่งฟ้องของอัยการ แต่ละคนมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะนางศรีพรรณ สามัคคี หนึ่งในผู้ต้องหา และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน 

นายสุรศักดิ์ ภู่นาค ทนายความของผู้ต้องหา ระบุว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พยายามพูดคุยกับฝั่งคู่กรณีอย่างต่อเนื่อง / ตอนนี้ยังไม่ขอระบุในส่วนของประเด็นลูกความของตนเองว่ายอมรับหรือปฏิเสธในข้อหา โดยยืนยันว่าต้องการที่จะพูดคุยเพื่อไม่ให้ทุกอย่างบานปลาย / ส่วนของผู้ต้องหาหนึ่งคนที่เสียชีวิตไปแล้วตนขอไม่พูดถึง เพราะอาจจะกระทบต่อสภาพจิตใจของครอบครัว โดยอยากให้รูปคดีเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย

ด้านนายอานนท์ จิตตกูล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี เปิดเผยว่า อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกคน ตามข้อกล่าวหาที่พนักงานสอบสวนมีการแจ้ง 3 ข้อกล่าวหา คือบุกรุก / ทำให้เสียทรัพย์ / และลักทรัพย์ ส่วนผู้ต้องหาคนที่ 1 ที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว ชุดพนักงานสอบสวนได้มีการยื่นใบมรณะบัตรและเอกสารให้อัยการตรวจสอบแล้ว จนมีคำสั่งให้ยุติการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาคนที่ 1 

ในชั้นพนักงานสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และในชั้นอัยการผู้ต้องหาทั้ง 4 คนก็ไม่ได้มีการยื่นร้องขอความเป็นธรรมแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ผู้ต้องหาก็มีสิทธิ์กลับคำให้การในชั้นศาลได้ เพื่อสามารถเป็นเหตุบรรเทาโทษได้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา ในขณะเดียวกันฝั่งผู้เสียหายสามารถเรียกร้องในคดีทางแพ่งได้ด้วย

ด้านนางสาว อำนวยพร มณีวรรณ์ ทนายความฝ่ายผู้เสียหาย เปิดเผยว่า คู่กรณีรวมถึงทนายความ ยังไม่ได้ติดต่อเข้ามาพูดคุยกับลูกความ  แม้ที่ผ่านมาได้แสดงความประสงค์ที่จะเข้ามาเจรจา แต่ในเมื่อคดีถึงชั้นศาลแล้วก็ให้มาพูดคุยกันที่ศาล เบื้องต้นในวันนี้อัยการได้นัดส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดในคดีบุกรุก ซึ่งลูกความจะเรียกร้องค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นเงิน 3 แสนบาท และเรียกเก็บค่าเช่าย้อนหลัง 6 ปีตามที่มีหลักฐาน โดยให้จ่ายเป็นเดือน เดือนละ 20,000 บาท

ส่วนสำนวนคดีที่ 2 หรือคดีครอบครองปรปักษ์ พนักงานสอบสวนยังคงสอบสวนอยู่ แม้ น.ส.ศรีพรรณ สามัคคี ได้ยื่นถอนการครอบครองแล้ว แต่ศาลยังไม่มีคำสั่งถอนคำร้อง จึงต้องรอนัดหมายอีกครั้งวันที่ 18 มี.ค.นี้