จากกรณีนายชนาธิป สตบุตร อายุ 16 ปี หรือ “น้องต้น” นักเรียนอยู่ปวช.2 โรงเรียนพิชญวิทย์ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เก็บเงินจำนวนถึง 28,700 บาทได้ขณะขี่จักรยานยนต์ไฟฟ้าจะไปเติมเงินที่ตู้เอ็มทีเอ็ม ที่หน้าห้างโลตัสเอ๊กเพรส ใกล้กับธนาคาออมสิน สาขาบ้านดุง จากนั้นได้นำเงินดังกล่าวไปแจ้งยายว่าผมเก็บเงินได้ ยายบอกให้ประกาศหาตามเจ้าของฯ เพราะคิดว่าเงินจำนวนมากถึงเพียงนี้เจ้าของคงทุกข์ร้อนใจเป็นอย่างมาก ต่อมาน้องต้นจึงได้แจ้งยังไปยังนายวีระพล รักเสมอวงศ์ แอ้ดมินเพจบ้านดุงอัพเดต ประกาศตามหาเจ้าของเงิน สุดท้ายก็มีคนแสดงตัวเป็นเจ้าของเงินตัวจริงมารับไปเรียบร้อยแล้วช่วงเย็นวานนี้ โดยน้องต้นบอกว่า คิดถึงใจเขาใจเรา เก็บเงินได้คิดว่าเจ้าของเงินก็คงทุกข์ใจ อยากเอาไปคืนให้ ไม่อยากเก็บเอาไว้เอง และยายของน้องต้นคือนางนงเยาว์ก็พร่ำสอนหลานชายคนนี้มาตลอดว่าต้องซื่อสัตย์เป็นเด็กดี อย่างเก็บเงินได้ก็อยากให้ประกาศหาเจ้าของมารับคืน

ขณะเดียวกันก็มีภาพวงจรปิดตรงที่เกิดเหตุ เวลา 08.50 น.ของวันที่ 6 มี.ค.67 จับภาพได้ขณะชายสูงวัยคนหนึ่งขี่ซาเล้งมากดเงินที่ตู้เอทีเอ็มหน้าห้างฯ ช่วงที่กำลังจะดึงบัตรมากด ก็ปรากฏว่ามีเงินจำนวนหนึ่งตกอยู่ลงพื้น โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ทันสังเกต พอกดเงินเสร็จชายคนนี้ก็หยิบเงินใส่กระเป๋าแล้วเดินไปที่รถซาเล้ง จังหวะนั้นเองน้องต้นใส่เสื้อสีแดงขี่รถจักรยานไฟฟ้ามาจอด แล้วเดินจะมาเติมเงินในตู้เอทีเอ็มก็มองไปเห็นเงินหล่นอยู่พื้น หยิบขึ้นมามองหาเจ้าของ แต่ไม่มั่นใจว่าใครเป็นเจ้าของจึงรีบขี่จักรยานไฟฟ้าไปที่บ้านบอกกับยายทันที จนเป็นที่มาของการประกาศหาเจ้าของเงิน

ต่อมาวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 294 หมู่ 10 บ้านหนองหินเหนือ ต.ศรีสุทโธ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี พบกับน้องต้นและคุณยายของน้องคือนางนงเยาว์ ชัยยะชาติ อายุ 65 ปี โดยน้องต้นอยู่บ้านหลังนี้กับยายและญาติๆ รวม 5 ชีวิต น้องต้นทำงานบ้านทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เช่น กวาดบ้าน กรอกน้ำใส่ตู้เย็น ล้างจาน ซักผ้าให้ยายด้วย นอกจากนี้น้องต้นยังไปรับจ้างชำแหละหมูที่โรงฆ่าสัตว์ตั้งแต่ 2 ทุ่มถึง 5 ทุ่มทุกวัน ยกเว้นวันพระ เพื่อหารายได้เสริมเอาไว้ไปโรงเรียนและซื้อข้าวให้ยายที่อายุมากแล้ว

น้องต้น เปิดใจครั้งแรก ดูแล้วน้องต้นมีความรู้สึกอิ่มเอิบใจ โดยน้องต้นบอกกับนักข่าวว่า รู้สึกดีใจที่เก็บเงินได้แล้วประกาศหาเจ้าของจนเจอ เมื่อวานผมขี่จักรยานไฟฟ้าจะไปเติมเงินโทรศัพท์ พอเดินเข้าไปตรงหน้าตู้ฯ ก็เห็นเงินหล่นอยู่ ตอนนั้นไม่รู้ว่ามีเงินจำนวนเท่าไหร่ รีบเอาใส่กระเป๋ากลับบ้านมาหายาย เหตุที่ไม่ได้เอาคืนให้เจ้าของตอนนั้นเพราะไม่รู้ใครเป็นเจ้าของกันแน่  จึงรีบมาบอกยายว่า ยายๆผมเก็บเงินได้ ยายก็ถามว่า ไหนเอามาดูหน่อย พอเห็นเงินแบงค์พันเป็นปึก นับได้ 28,700 บาท ก็รีบโทรหาแอ้ดมินเพจบ้านดุงอัพเดตทันที พอประกาศหาก็มีตร.โทรติดต่อมามารับเงินคืนทันที ดีใจครับที่ได้เอาเงินคืนเจ้าของ ผมไม่คิดเก็บเอาไว้เองแน่นอน เพราะคิดว่าเจ้าของเงินก็คงทุกข์ใจ คิดถึงใจเขาใจเรา เงินกว่าจะหามาได้ ผมก็อยากได้แต่มันไม่ใช่ของผม เจ้าของเงินคงกำลังตามหาคงกำลังลำบากอาจจะเป็นเงินก้อนสำคัญของเขา ตอนนี้ผมเรียนอยู่ปวช.2 โรงเรียนพิชญวิทย์ อ.บ้านดุง ก็ช่วยงานบ้านยายทุกอย่าง แม้ผมจะกำพร้าพ่อแม่ แต่ก็มียายเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด รักเหมือนแม่อีกคน โตขึ้นผมอยากเป็นนักแสดงตลก มีพี่แจ๊ก ชวนชื่นเป็นไอดอล อยากสร้างความสุขสร้างเสียงหัวเราะให้ผู้คนครับ  น้องต้นกล่าวตอนท้าย

ส่วนนางนงเยาว์ อายุ 65 ปี ยายของน้องต้น บอกว่า ตนเองไม่มีบ้านอยู่บ้านหลังนี้เป็นบ้านของน้องสาว ขอมาอาศัยเขา เขามาต่อด้านหลังครัวให้  ก็มีต้นหลายชายเอามาอยู่ด้วย  ต้นเขากำพร้าพ่อและแม่ตั้งแต่คลอดออกมาจากท้องแม่เขาเลย พ่อและแม่เขาเลิกกันตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง พอคลอดออกมายายก็เลี้ยงมาตลอด ตั้งแต่เด็กๆ เขาเลี้ยงง่าย ไม่เคยเกเร เป็นเด็กดี รู้จักการทำงานไปรับจ้างได้มาเท่าไหร่ก็เอาเงินมาให้ยายเก็บไว้  ตอนเด็กๆ ก็ใช้เงินไปโรงเรียนไม่เยอะ แต่ตอนนี้เขาเรียนสูงขึ้นต้องใช้เงินวันละ 60 บาท เงินไม่พอใช้ก็เลยให้หลานชายไปรับจ้างที่โรงฆ่าสัตว์ ได้วันละ 100 บาทำงานตั้งแต่ 2 ทุ่มถึง 5 ทุ่ม ลำพังยายก็แก่แล้ว แต่ก่อนไปรับจ้างล้างถ้วยล้างชามในตลาดพอได้ให้เงินหลานไปโรงเรียน แต่ตอนนี้แก่แล้วทำงานไม่ได้เต็มที่ ต่อไปคงให้หลานเป็นคนเลี้ยง รู้สึกดีใจที่หลานชายเป็นเด็กดีและซื่อสัตย์ เก็บเงินได้แล้วประกาศหาเจ้าของ ยายคิดว่าตอนแรกนึกว่าเป็นเงินปลอมด้วยซ้ำ แต่ตาของต้นอีกคนก็แนะนำให้คืนเจ้าของไปด้วย  พร่ำสอนเขาตลอดว่า เก็บเงินหรืออะไรก็ตาม หากไม่ใช่ของเขาอย่าเก็บเอาไว้ และหลานก็เชื่อคำสอน

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้เดินทางไปพบกับเจ้าของเงินที่ทำหล่น คือนายจิระ สอนบุญ อายุ 57 ปี พ่อค้านาเกลือ ที่บ้านฝาง ต.โพนสูง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี นายจิระ เปิดเผยว่า ผมมีอาชีพทำนาเกลือและขายปลาทูตลาดเย็น ไปกดเงินเพื่อเอาไปจ่ายค่าคนงานนาเกลือจำนวน 50,000 บาท ตอนแรกกดตอนเย็นวันที่ 5 มี.ค.67 แล้วจำนวน 30,000 บาท ไปเติมน้ำเงิน 300 บาท เหลือ 28,700 บาทก็ยัดใส่กระเป๋ากางเกงไปของปลาทูที่ตลาด ตอนเช้าเมื่อวานไปกดอีก 20,000 บาท ช่วงที่กำลังกดหยิบบัตรไม่รู้เงินหล่นตอนไหน พอกดเงินอีกสามหมื่นได้แล้วก็ขี่ซาเล้งกลับบ้านเลย มาควานหาเงินอีกทีเงิน 28,700 บาทก็ไม่เจอแล้ว ตกใจมากเงินค่าคนงานหายไปแล้ว จากนั้นผมก็ขี่รถซาเล้งตามรอยเดิมหาเงิน คิดได้ว่าต้องตกหน้าตู้เอทีเอ็มแน่นอนไปดูก็ไม่เจอ ก็เลยขอพนักงานฯ โลตัสดู ก็เจอพอดี มีเด็กน้อยเสื้อแดงเก็บเงินได้ จึงเอากล้องวงจรปิดไปแจ้งความ ต่อมาไม่นานก็มีตร.บอกว่า เจอแล้วนะมีคนมาแจ้งเอาเงินมาประกาศหาเจ้าของแล้ว ตร.ยังแซว บุญหลายนะเจ้าได้เงินคืน  ผมก็ไปรอที่โรงพัก น้องต้นและยายก็นำเงินมามอบให้ หากไม่ได้เงินจำนวนนี้คืนคงไม่มีเงินจ่ายค่าแรงคนงานแน่นอน ผมก็ตอบแทนน้องเขาเป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ 1,000 บาท ดีใจที่สังคมไทยเรายังมีคนดีอยู่แบบนี้