เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ตำรวจทางหลวงอยุธยา บูรณาการร่วมกับ ตม.อยุธยา-ตำรวจมหาราช จับกุมชาวเมียนมาลอบเข้าเมือง


13 มี.ค. 2567, 16:03



ตำรวจทางหลวงอยุธยา บูรณาการร่วมกับ ตม.อยุธยา-ตำรวจมหาราช จับกุมชาวเมียนมาลอบเข้าเมือง




 

วันที่ 12 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 00.30 น.  สถานที่จับที่กุม  บริเวณ หมู่ที่ 2 ทล.347 ต.น้ำเต้า อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา บันทึกนี้จัดทำขึ้นไว้เพื่อแสดงว่าภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก.พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล.,พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง.ผบก.ป ช่วยราชการ รอง ผบก.ทล.,พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล.,พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.๑ บก.ทล.,พ.ต.อ.สถิตย์ วิชัยกุล ผกก.ตม.พระนครศรีอยุธยา,พ.ต.อ.วุฒิชัย สุคนธวิท ผกก.สภ.มหาราช,พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ รอง.ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง รอง.ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.ท.พงศธร รักษาทิพย์ รอง ผกก.ตม.พระนครศรีอยุธยา,พ.ต.ท.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. สั่งการให้

เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.๑ บก.ทล.(อยุธยา) นำโดย ร.ต.อ.เอกชัย ขุมเพ็ชร,ร.ต.อ.เชาวลิต สีดำ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.อ.ประธาน จตุพันธ์ รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.1บก.ทล.

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา นำโดย พ.ต.ต.ชานนท์ คำบุรี สว.ตม.พระนครศรีอยุธยา,ร.ต.ท.วิชัย ท้าวทอง รอง สว.ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา,ร.ต.ต.อรชุน วรธนกร รอง สว.(สส)ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา,ด.ต.สิทธิชัย ศรีรัตนเพียร ผบ.หมู่.ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา,ด.ต.นันทพัทธ์ บุญช่วย ผบ หมู่ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา

เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรมหาราช ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา นำโดย พ.ต.ท.กัมปนาท ท้ายวัด รอง ผกก.สส.สภ.มหาราช,พ.ต.ต.พัลลภ สุวรรณไตรย์สว.สส.สภ.มหาราช,ร.ต.อ.ประสงค์ ลาจำนงค์ รอง สว.สส.สภ.มหาราช,ด.ต.ประเสริฐ รักพวกกลาง ผบ.หมู่ สส.สภ.มหาราช,ด.ต.ศุภฤกษ์ ทองน้อย ผบ.หมู่ สส.สภ.มหาราช,ส.ต.อ.วันชัย แก้วนะ  ผบ.หมู่ สส.สภ.มหาราช,ส.ต.ต.อนันตชัย คามวัลย์ ผบ.หมู่ ผช.พงส.สอบสวน สภ.มหาราช
ได้ทำการจับกุม

1.นายธีรภัทร ทองเนื้ออินทร์ อายุ 30 ปี (ผู้ขับขี่) สัญชาติ ไทย ผู้ถูกจับที่ 1
2. นายจอเลหม่อง         อายุ 20 ปี         สัญชาติ เมียนมา  ผู้ถูกจับที่ 2 
3. นายเซนโกทะ           อายุ 19 ปี         สัญชาติ เมียนมา  ผู้ถูกจับที่ 3
4. นายนีโออุ้ย           อายุ 19 ปี      สัญชาติ เมียนมา  ผู้ถูกจับที่ 4
5. นายอ่องตะเม          อายุ 27 ปี          สัญชาติ เมียนมา  ผู้ถูกจับที่ 5
6. นายหมิงหมิงโซ         อายุ 32 ปี        สัญชาติ เมียนมา  ผู้ถูกจับที่ 6
7. นายจอม          อายุ 20 ปี          สัญชาติ เมียนมา  ผู้ถูกจับที่ 7
8. นายชายสาอู่          อายุ 20 ปี          สัญชาติ เมียนมา  ผู้ถูกจับที่ 8
9. นายกะปอทุย          อายุ 33 ปี         สัญชาติ เมียนมา  ผู้ถูกจับที่ 9
10. นางสาวอู๋          อายุ 20 ปี         สัญชาติ เมียนมา  ผู้ถูกจับที่ 10 ล่ามแปล
11. นางสาวเพียวเพียว     อายุ 29 ปี         สัญชาติ เมียนมา  ผู้ถูกจับที่ 11 และมีผู้ติดตามชาย จำนวน 1 คน
12. นางสาวมะซู          อายุ 37 ปี         สัญชาติ เมียนมา  ผู้ถูกจับที่ 12

พร้อมด้วยของกลางมี 
1.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ผต-3746 นครสวรรค์ จำนวน 1 คัน 
2.โทรศัพท์ ยี่ห้อ/รุ่น OPPO สีเทา หมายเลข เบอร์ซิม 1 TRUE “096-2204589” เบอร์ซิม 2 AIS “065-5212541” จำนวน 1 เครื่อง
3.กุญแจรถยนต์ จำนวน 1 ดอก
โดยกล่าวหาว่า ผู้ถูกจับที่ 1 “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม”
ผู้ถูกจับที่ ๒ - 11 “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พฤติการณ์แห่งการจับ พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.อ.สถิตย์ วิชัยกุล ผกก.ตม.พระนครศรีอยุธยา จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยาและเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรมหาราช ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั่งวันนี้( 12 มีนาคม 2567 ) เวลาประมาณ 00.10 น.ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง โดยพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ผต-3746 นครสวรรค์ ขับขี่ผ่านมาโดยใช้ความเร็วสูงและมีผ้าใบสีดำปิดที่ด้านท้ายรถและมีน้ำหนักที่รถยนต์มากกว่ารถยนต์ปกติ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึง บริเวณ หมู่ที่ 2 ทล.347 ต.น้ำเต้า อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบพร้อมกับได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจแล้วเบื้องต้นสอบถามชื่อ นายธีรภัทร ทองเนื้ออินทร์ อายุ 30 ปี เลขประจำตัวประชาชน 1 1037 01186 68 2 ที่อยู่ 39 หมู่ที่ 7 ต.บ่อทอง อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก (แสดงตนเป็นผู้ขับขี่) โดยมีผู้ถูกจับที่ 2-11 นั่งโดยสารมากับรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญรถยนต์คันดังกล่าวมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สถานีตำรวจภูธรมหาราช ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา พบว่า ผู้ถูกจับที่ 2 - 11 เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง โดยผู้ถูกจับนั่งโดยสารมาในรถยนต์คันดังกล่าว จากการสอบถามผู้ถูกจับที่ 1 ให้การยอมรับว่า เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 21.00 น.ได้รับการประสานจากนายจื้อซึ่งเป็นเพื่อน หรือนายสมเกียรติ แซ่สง เบอร์โทร.080-1569101 ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 11 คนและมีผู้ติดตามอีก 1 คน ที่บริเวณริมถนน ทล.11 ใกล้แยกวังงิ้ว อ.ดงเจริญ จ.พิจิตร เพื่อไปส่งที่ปลายทาง ปั้มน้ำมัน PT อ.สามโคก จ.ปทุมธานี โดยได้ค่าจ้าง 15,000 บาทต่อครั้ง และรับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวทั้ง 11 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ โดยตนนั้นได้กระทำแบบนี้มาแล้ว 1-2 ครั้ง เงินค่าจ้างที่ได้มาจะนำไปเที่ยวและใช้จ่ายต่างๆและ สอบถามผู้ถูกจับที่ 2 – 11 ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวน 12,000-20,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ถูกจับที่ 1 “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม”ผู้ถูกจับที่ ๒ - 11 “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”และควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรมหาราช ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.