วานนี้ (18 มีนาคม 2567) เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ที่ 2 ประกอบด้วย จังหวัดเชียงราย น่าน พะเยา และแพร่ ณ ศูนย์ฝึกอบรมที่ 4 (เชียงราย) ภายในสวนรุกขชาติ ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย โดยมี ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงฯ พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ คณะผู้บริหารระดับสูงหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เข้าร่วมประชุมและรับมอบนโยบาย เพื่อตรวจติดตามโครงการสำคัญในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ก่อนการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ในวันที่ 19 มีนาคม 2567 ที่จังหวัดพะเยา
โดย พล.ต.อ.พัชรวาท ได้กล่าวให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ทุกท่าน โดยขอให้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ช่วยกันเร่งรัดแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมทั้งได้มอบนโยบายและสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินงานโครงการสำคัญให้เป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว โดยเฉพาะโครงการที่ผ่านความเห็นชอบจากการประชุมบูรณาการ การพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 อาทิ การผลักดันการพัฒนาด่านการค้าชายแดน จุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก อ.ภูซาง จ.พะเยา และโครงการพัฒนาพื้นที่หนองเล็งทรายแบบอารยเกษตรสู่วิถียั่งยืน
นอกจากนี้ ยังได้เร่งรัดการดำเนินโครงการด้านทรัพยากรน้ำและด้านทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัด 17 โครงการ ได้แก่ โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูเวียงหนองหล่ม-หนองเขียว พร้อมระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ในพื้นที่ จ.เชียงราย 1 โครงการ จ.น่าน 2 โครงการ จ.พะเยา 3 โครงการ และ จ.แพร่ 2 โครงการ โครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานสิ่งอำนวยความสะดวกเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เพื่อยกระดับการแข่งขันและการท่องเที่ยวคุณภาพสูง ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จ.เชียงราย 2 โครงการ จ.น่าน 1 โครงการ จ.พะเยา 1 โครงการ และ จ.แพร่ 1 โครงการ โครงการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นที่ป่านันทนาการน้ำตกตาดหมอก น้ำตกวังเขียวและน้ำตกนางกวัก จ.น่าน พื้นที่เตรียมการป่านันทนาการน้ำตกแม่แคม น้ำตกนาคูหา ถ้ำผาสิงห์ จ.แพร่ โครงการปลูกป่าปรับปรุงระบบนิเวศต้นน้ำ ป่าสงวนแห่งชาติ จ.น่าน และ จ.แพร่

พร้อมทั้งกำชับให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมป่าไม้ นำมาตรการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 ในช่วงสถานการณ์วิกฤตไปปฏิบัติการอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการควบคุมจัดการไฟในพื้นที่มุ่งเป้า 11 ป่าอนุรักษ์ และ 10 ป่าสงวนฯ รวมถึงพื้นที่เกษตรเผาไหม้ซ้ำซากในพื้นที่สูง ส่วนการแก้ไขปัญหาภัยแล้งสั่งการให้กรมทรัพยากรน้ำ และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล สำรวจพื้นที่ที่คาดว่าจะเกิดปัญหาภัยแล้ง ส่งผลกระทบต่อน้ำกิน น้ำใช้ และน้ำเพื่อการเกษตร โดยให้จัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์การขุดเจาะ รถผลิตน้ำดื่ม รถบรรทุกน้ำ เครื่องสูบน้ำและบุคลากรพร้อมปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมง โดยให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมกับจังหวัด และเป็นหน่วยงานหลักประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้การช่วยเหลือ

ด้านการแก้ไขปัญหาการบุกรุกและตัดไม้มีค่า สั่งการให้กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เฝ้าระวังและลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลเป็นสำคัญด้วย สำหรับการแก้ไขปัญหาน้ำเสียและบ่อขยะในพื้นที่ ได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด และสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ ประสานกับหน่วยงานท้องถิ่นในการดูแลไม่ให้มีการทิ้งน้ำเสียลงแหล่งน้ำ เพื่อป้องกันปัญหามลพิษทางน้ำ และป้องกันการเกิดไฟไหม้บ่อขยะโดยต้องมีมาตรการในการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน