ศิษยานุศิษย์ แห่ร่วมพิธีสรงน้ำสรีระสังขาร “หลวงปู่บุญอุ้ม” จอมขมังเวทย์แห่งเมืองนครพนม
22 ต.ค. 2562, 20:45
วันที่ 22 ตุลาคม 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เวลา 16.00 น. คณะศิษยานุศิษย์ ญาติโยมตลอดจนลูกหลานร่วมพิธีสรงน้ำศพสรีระสังขาร พระครูไพศาลธรรมมงคล หรือ หลวงปู่บุญอุ้ม อาภัสสโร เจ้าอาวาสวัดป่าโนนแพง หมู่ 5 ตำบลบ้านแพง อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม อายุ 64 ปี 35 พรรษา ที่ได้ละสังขารด้วยอาการสงบ เมื่อเวลาประมาณ 05.09 น. เช้ามืดของวันเดียวกัน ขณะพักอยู่ภายในกุฏิวัดป่าโนนแพง หลังจากได้เข้ารับการรักษาตัวจากการอาพาธด้วยโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาวที่โรงพยาบาลนครพนม
โดยพิธีสรงน้ำศพ มีพระเทพวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เป็นประธานสงฆ์ และนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานพิธี โดยมี นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอบ้านแพง นายดนัย สิทธิวัชระชัย นายกเทศมนตรีตำบลบ้านแพง พ.ต.อ.เกียรติปกรณ์ รวมวงศ์ ผกก.สภ.บ้านแพง มณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) และทหารพรานฯ จัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ผู้มาร่วมสรงน้ำอาบศพ ขณะที่วิทยาลัยเทคนิคบ้านแพง นำนักศึกษาสาขาไฟฟ้า มาติดหลอดไฟส่องสว่างรอบบริเวณวัด นอกจากนี้ยังมีผู้มีจิตศรัทธา ตั้งโรงทานนำอาหาร เครื่องดื่มมาบริการ และที่ขาดไม่ได้คือแผงลอตเตอรี่แห่มาตั้งเรียงรายอยู่ใกล้กับศาลาการเปรียญ โดยเฉพาะเลข 65 ถูกกว้านซื้อไปหมดทุกแผง เนื่องจากวันที่ 23 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ หลวงปู่จะมีอายุครบ 64 ปีเต็ม ย่างเข้า 65 นักเก็งเลขจึงถือเป็นเลขเด็ดประจำงวดนี้
นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอบ้านแพง เปิดเผยว่าเบื้องต้นที่ได้พูดคุยปรึกษากับลูกศิษย์ของหลวงปู่บุญอุ้ม ได้ข้อสรุปว่าจะเก็บสรีระท่านไว้ 100 วัน โดยจะมีการทำบุญครบ 7 วัน (เรียกว่าสัตมวาร) ทำบุญครบ 15 วัน (เรียกว่าปัณรสมวาร) ครบรอบ 50 วัน (เรียกว่าปัญญาสมวาร) และครบรอบ 100 วัน (เรียกว่าศตมวาร) ตามลำดับ ขณะเดียวกันก็จะมีหนังสือขอพระราชทานเพลิงศพ โดยจะประกาศกำหนดวันที่แน่ชัดอีกครั้ง
รายงานข่าวแจ้งว่าในเวลา 05.09 น. หลวงปู่สิ้นลมหายใจอย่างสงบ นกกาบนต้นไม้ ไก่ป่า หรือสุนัขในวัด ต่างส่งเสียงร้องโหยหวน เหมือนจะรับรู้ว่าหลวงปู่ได้ละสังขารแล้ว ขณะที่ญาติโยมที่พร้อมใจนุ่งห่มด้วยผ้าสีขาวมานั่งสวดมนต์ตลอดทั้งคืนรอบกุฏิ เมื่อทราบจากลูกศิษย์ว่าหลวงปู่บุญอุ้มจากไปแล้ว ต่างร่ำไห้ด้วยความเศร้าโศก
นายมหานิยม พิณราช อายุ 48 ปี ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิด กล่าวว่า ก่อนนี้หลวงปู่บุญอุ้ม เข้ารับการรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลนครพนม รวมถึงโรงพยาบาลที่ กทม.มาตลอด เพราะมีอาการปวดหลัง ภายหลังแพทย์ตรวจพบว่า ท่านป่วยเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาว ล่าสุดช่วงปลายเดือนกันยายน มีอาการทรุดหนักจึงเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพนม และแพทย์ได้บอกแก่ลูกศิษย์ว่าขณะนี้ร่างกายของหลวงปู่อ่อนล้ามาก โอกาสที่จะดับขันธ์เกิดขึ้นได้ทุกวินาที ทุกคนจึงเห็นพ้องกันว่าควรนำท่านไปละสังขารที่วัดป่าโนนแพง เมื่อกลับมาถึงวัดความดันท่านดีดขึ้นมาเป็นปกติอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ลดลงตามลำดับ จนในที่สุดก็ละสังขารในเวลา 05.09 น.
โดยก่อนนี้ หลวงปู่บุญอุ้ม อาภัสสโร เคยเปรยลูกศิษย์ว่า จะละสังขาร ตามกาลเวลาสัจธรรมของชีวิต ช่วงอายุ 65 ปี แต่ลูกศิษย์ยังไม่ปักใจเชื่อ คิดว่าหลวงปู่บุญอุ้มพูดเปรียบเปรย และให้เข้าใจถึงสัจธรรมชีวิต ไม่คิดว่าจะมาละสังขารตามที่ท่านกล่าวไว้ ถือเป็นเรื่องเศร้าสำหรับศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมาก เนื่องจากหลวงปู่เป็นที่พึ่งทางใจของบรรดาลูกศิษย์ รวมถึงผู้เคารพศรัทธา และมีคนรู้จักทั่วประเทศ ในความเชื่อเกี่ยวกับด้านคงกระพัน และเมตตามหานิยม
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในรอบ 4 เดือน จังหวัดนครพนม สูญเสียพระเกจิอาจารย์ชื่อดังถึง 2 รูป คือ วันที่ 6 กรกฎาคม หลวงปู่สอ ขันติโก ฉายาพระสงฆ์ 6 แผ่นดิน วัดโพธิ์ศรี บ้านบะหว้า หมู่ 10 ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ศิษย์สืบสายธรรม หลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปัณโณ พระเกจิชื่อดังวิทยาคมเข้มขลัง แห่งวัดพระธาตุท่าอุเทน ได้ละสังขารอย่างสงบที่กุฏิวัด รวมสิริอายุ 114 ปี 94 พรรษา และเพิ่งจะผ่านพิธีพระราชทานเพลิงศพไปเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา กระทั่งวันที่ 22 ตุลาคม หลวงปู่บุญอุ้มก็ละสังขารไปอีกรูปหนึ่ง สร้างความเศร้าสลดแก่สาธุชนยิ่งนัก