เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



หนุ่มวัย 45 นอนเฝ้าสวนมะม่วงถูกช้างป่ากระทืบเสียชีวิต


4 เม.ย. 2567, 18:16



หนุ่มวัย 45 นอนเฝ้าสวนมะม่วงถูกช้างป่ากระทืบเสียชีวิต




วันที่ 4 เมษายน 2567 นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี รับแจ้งว่า เกิดเหตุช้างป่าทำร้ายชาวบ้านจนเสียชีวิตที่บ้านเข็ดกา ม.12 ต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงประสานไปยังพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวน้อย พร้อมนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

โดยที่เกิดเหตุเป็นสวนมะม่วง ซึ่งมีพื้นที่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติกุยบุรี โดยพบว่าที่โคนมะม่วงต้นหนึ่ง มีร่องรอยของเปลผ้าร่ม สีลายพรางเชือกเปลด้านหนึ่งผูกกับต้นมะม่วงอีกด้านหนึ่งผูกกับต้นกระถิน ที่เปลมีร่องรอยฉีกขาด ใกล้กันพบกองเลือดที่พื้น และมีกระเป๋าย่ามสำหรับใส่โทรศัพท์แล้วของใช้อื่นๆ พร้อมทั้งผ้าห่มอีก 1 ผืนตกอยู่ใกล้กัน ส่วนร่างผู้ถูกช้างทำร้าย ทางญาติได้หามส่งโรงพยาบาลกุยบุรีไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งทราบว่าเสียชีวิตลงแล้ว ทราบชื่อว่า นายฉัตรชัย เปรมปรี อายุ 45 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.กุยเหนือ อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ ซึ่งเป็นเจ้าของไร่ที่เกิดเหตุ

 

 

 

 



**ต่อมาทางด้านนายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี และนายไพศาล ช่อผกา นายอำเภอกุยบุรี ได้เดินทางไปยังวัดวังยาว อ.กุยบุรี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจแก่ญาติผู้เสียชีวิต และเคารพศพผู้ตาย โดยทางด้านหัวหน้าอุทยานฯกุยบุรี ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจากอุทยานแห่งชาติกุยบุรีให้กับญาติของผู้ตายไว้จำนวนหนึ่ง ซึ่งทางหัวหน้าอุทยานฯได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า**(หัวหน้าแจ้งว่าโดยระเบียบของกรมฯ จึงไม่สะดวกให้สัมภาษณ์)** วันนี้ทางอุทยานได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับทางญาติไปก่อน หลังจากนี้จะส่งเรื่องไปยังกรมอุทยานฯ เพื่อเสนอขอรับเงินเยียวยาให้กับญาติผู้เสียชีวิตตามระเบียบต่อไป ส่วนเรื่องของพื้นที่ที่เกิดเหตุนั้น ตนเองจะตั้งชุดเฝ้าระวังขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง เพื่อเฝ้าคอยดูแลโซนนี้เป็นพิเศษ ให้คอยช่วยเหลือชาวบ้านในการผลักดันช้างให้กลับเข้าป่า และดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้ปลอดภัยอย่างเต็มกำลัง**

 

 

 


ทางด้านนางทองพิน เกิดลาภ อายุ 52 ปี และนางทองพูน เปรมปรี ซึ่งทั้งสองเป็นพี่สาวของผู้เสียชีวิต เล่าว่า นายฉัตรชัย น้องชายและพวกตนได้เริ่มไปเฝ้าสวนมะม่วงกันตั้งแต่ 18.00 น.เศษ โดยตนเฝ้าอยู่อีกสวนหนึ่งไม่ห่างกันนัก ในช่วงเวลาใกล้ 04.00 น. ได้ยินเสียงเพื่อนไร่ข้างเคียงจุดประทัดไล่ช้าง จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงไซเรน หรือหวอ ดังที่ไร่ของน้องชาย ดังอยู่นานไม่ยอมเงียบก็เลยชวนกันเดินไปดู เมื่อไปถึงไร่ก็ไปปิดเสียงสัญญาณไซเรนก่อน จากนั้นเดินมาจุดที่น้องชายผูกเปลนอน ก็พบว่าเปลฉีกขาดกองกับพื้น ส่องไฟดูข้างๆเปลก็พบร่างน้องชายนอนคว่ำหน้ากับพื้น จึงไปจับประคองขึ้นก็ได้ยินเสียงน้องชายหายใจเฮือกก่อนจะแน่นิ่งไป ทางด้านนางทองพิน จึงได้โทรตามให้สามีมาพาน้องชายไปโรงพยาบาลกุยบุรี แต่ก็ไม่ทันการน้องชายเสียชีวิตลงแล้ว โดยพบร่องรอยแถวหน้าอกซ้ายมีรอยบวมช้ำ พวกตนคาดว่าน้องชายนอนดึก ในช่วงที่มีช้างป่าเข้ามาในสวน น้องชายอาจหลับไม่ได้ยินเสียงหวอดัง จนช้างเดินมาถึงเปลและอาจถูกช้างป่าเตะทั้งที่ยังนอนบนเปล จนทำให้เปลขาดและตกจากเปลไปนอนอยู่กับพื้น และเสียชีวิตลงในที่สุด

ทางด้านนายทองพิน พี่สาวกล่าวต่อว่า ตนเองก็ไม่ได้หวังอะไรจากภาครัฐ ขอเพียงให้หัวหน้าอุทยานฯส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยดูแลและผลักดันช้างให้กลับเข้าป่า เนื่องจากที่ผ่านมาน้องชายของตนจะเป็นเสาหลักของครอบครัว เลี้ยงดูลูกเมียและแม่ นอกจากนั้นยังช่วยพวกพี่เฝ้าสวนมะม่วง โดยตอนนี้ใกล้จะเก็บเกี่ยวได้แล้ว จึงอยากให้เจ้าหน้าที่มาช่วยดูแลตรงนี้ด้วย

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.