เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"ไทย" ย้ำไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใคร ปัดเมียนมานำเครื่องบินลงจอดไม่ใช่การเคลื่อนย้ายกำลังพล


8 เม.ย. 2567, 17:43



"ไทย" ย้ำไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใคร ปัดเมียนมานำเครื่องบินลงจอดไม่ใช่การเคลื่อนย้ายกำลังพล




กรณีที่เครื่องบินโดยสารจากเมียนมาจำนวน 1 ลำได้ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด ก่อนบินกลับประเทศเวลา 22.00 น. ของวันที่ 7 เม.ย.67นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ซึ่งเป็นไปตามที่นายจักรพงษ์ได้ชี้แจงไปว่า เป็นการขนย้ายพลเรือนตามปกติ ไม่ได้มีการขนส่งทางการทหาร และมีการขออนุมัติอย่างถูกต้องตามกระบวนการทุกอย่าง ไม่ได้เป็นการขนอาวุธหรือทหาร


 เมื่อถามย้ำว่ากระทรวงกลาโหมของเราได้มีการประสานกันอย่างถูกต้องตามขั้นตอนแล้วใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ส่วนการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ทำเนียบรัฐบาลในวันพรุ่งนี้(9 เม.ย.67) นั้น เรื่องนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ส่วนเรื่องใหญ่ที่เรียกประชุมคือเรื่องภายในเมียนมา จึงได้เชิญนายปานปรีย์ พหิธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก รวมทั้งที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศ เพื่อกำหนดทิศทางให้ไปในทิศทางเดียวกัน



 ผู้สื่อข่าวถามว่า ไทยและเมียนมามีชายแดนติดต่อกันยาว ได้มีการเตรียมความพร้อมรองรับหากมีประชาชนจากฝั่งเมียนมาทะลักเข้ามาในประเทศไทยจากการสู้รบหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องการบริหารจัดการที่เป็นเอกภาพ ชายแดนไทยเมียนมามีเขตติดต่อกัน ประมาณ 2,000 กิโลเมตร อีกทั้งเมียนมาเองก็มีประชากรเกือบ 70 ล้านคนเท่ากับเรา ความประสงค์ของรัฐบาลไทยมีความชัดเจนว่า อยากให้เมียนมาเกิดความสงบ เป็นหนึ่งเดียวกัน ก้าวหน้าไปและเจริญเติบโตก้าวหน้าไปตามศักยภาพที่มี อยากให้เกิดสันติภาพ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญไทยอยากให้มีสันติภาพเกิดขึ้นในเมียนมา

แต่หากมีการทะลักเข้ามาของเมียนมา แผนรองรับของเราคืออะไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่การทะลักเข้ามา และที่ได้รับรายงานที่เข้ามาแล้วก็ยังไม่มีปัญหาอะไร


ส่วนประเด็น ไทยถูกมองเรื่องของสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการส่งกลับผู้อพยพ เรื่องนี้มีแผนเตรียมการไว้อย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อย่าพึ่งไปคาดเดา เพราะยังไม่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชน ให้ความสำคัญกับเรื่องความสงบ และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน


ด้านนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์ชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวว่า “เรื่องเครื่องบินเมียนมาที่เป็นข่าว ได้ตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นเรื่องการขอนำเครื่องบินพลเรือนมาลงเพื่อขนสิ่งของพลเรือน ไม่ได้มีการขนกำลังทหาร หรืออาวุธ หรือการขอลี้ภัยตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด เป็นเรื่องคำขอทางการทูตเพื่อนำเครื่องบินพลเรือนมาขนย้ายสิ่งของทางการทูต ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติครับ”

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีชี้แจงต่อการดำเนินนโยบายด้านการต่างประเทศของไทยว่า ไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใครในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ และดำเนินนโยบายยืนหยัดคู่ความสงบสุข การแก้ไขความขัดแย้งโดยสันติวิธีเสมอมา

 


ดังนั้น ต่อประเด็นเรื่องเครื่องบินเมียนมาเป็นการปฏิบัติภารกิจฝ่ายพลเรือน ขอนำเครื่องบินพลเรือนเพื่อขอขนส่งสิ่งของพลเรือนตามปกติ ไม่ได้เป็นการรองรับภารกิจพิเศษ หรือมีการขนกำลังทหารหรืออาวุธ แต่อย่างใด “รัฐบาลไทยดำเนินนโยบายอย่างชัดเจนเสมอมา ไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใคร มุ่งหวังให้ทุกฝ่ายดำเนินการในทางสันติวิธี แต่ในทางมนุษยธรรม ไทยพร้อมให้ความช่วยเหลือพลเรือน ตามแนวทางหลักการสากลเพื่อสันติสุขของโลกตามที่ได้ดำเนินการตลอดมา

ก่อนหน้านี้ มีหนังสือจากสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทย ถนนสาธร กรุงเทพมหานคร ถึงกระทรวงการต่างประเทศไทย ลงวันที่ 7 เม.ย.67 มีใจความสำคัญว่า ขออนุญาตในการบินขึ้นลงและเติมน้ำมัน ณ สนามบินแม่สอด ในระยะเวลา 72 ชั่วโมงในระหว่างวันที่ 7-9 เมษายนนี้ สำหรับเครื่องบิน ATR 72-600 ซึ่งเป็นเครื่องบินเช่าเหมาลำสายการบิน Myanmar National Airlines (MNA) เส้นทางบินย่างกุ้ง-แม่สอด-ย่างกุ้ง (route: Yangon-Mae Sot-Yangon) ในหนังสือยังระบุวัตถุประสงค์ของเที่ยวบินว่าเป็นการเช่าเหมาลำพิเศษสำหรับผู้โดยสารและสินค้า ทั้งไปกลับ (Purpose of Flight: Special Charter for special charter passengers and cargo on both ways)

 


คำที่เกี่ยวข้อง : #onbnews  




Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.