โดยพ.ต.ท.วีรศักดิ์ ได้กล่าวว่า หลังจากที่ทาง ผกก.สภ.ภูซางได้สั่งการเข้ามานั้นตนเองก็ได้จัดกำลังลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบทันที โดยได้มีการแกะรอยจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่าง ๆ จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้ครบ และพบว่าตัวการในการขโมยเงินในตู้เติมเงินครั้งนี้คือนายวิศิษฎ์ ปุกคำ อายุ 37 ปี จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่บุกรวบตัวผู้ต้องหาคนดังกล่าวคาบ้านพักซึ่งเป็นบ้านแม่ของผู้ต้องหาด้วย จากการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 15 เม็ด พาหนะและเสื้อผ้าในวันก่อเหตุ โดยหลังจากนั้นได้มีการสอบสวนอย่างละเอียดซึ่งผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่าทำจริง อีกทั้งตู้เติมเงินบุญเติมที่ถูกงัดแงะไปแล้วนั้นผู้ต้องหาได้นำไปทิ้งไว้ในสระน้ำสาธารณะบ้านทุ่งกล้วย ม.4 ทั้งนี้ตนเองได้มีการประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างพะเยาสำนักงานใหญ่ให้ช่วยกันงมค้นหาซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานสามารถนำของกลางขึ้นมาจากน้ำได้ทั้งหมดจำนวน 3 ตู้ด้วยกัน ทั้งนี้จากการสอบสวนอีกรอบในเรื่องของการงัดตู้นั้นผู้ต้องหาได้เล่าว่าช่วงเวลาประมาณตี 1 ของวันที่ 2 วันที่ 4 และวันที่ 6 เม.ย.67ได้ขับรถตระเวนตามพื้นที่ที่มี่ตู้เติมเงินและได้ใช้ไขควงขนาดใหญ่งัดจนตู้แตกออกมา ทั้งนี้ผู้ต้องงัดทั้งหมดจำนวน 3 ตู้ด้วยกันซึ่งเงินที่ได้ทั้ง 3 ตู้รวม ๆ แล้วเกือบ 6 พันบาทด้วยกัน ทั้งนี้ตัวผู้ต้องหาเองเคยมีประวัติเรื่องการถูกจับกุมยาเสพติดด้วยเช่นกัน

นายวิศิษฎ์ ผู้ต้องหาได้เล่าว่า ตนเองนั้นเมื่อก่อนทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ต่อมาเมื่อไม่มีงานก็ได้กลับมาบ้านเกิดซึ่งในช่วงเวลานั้นพบว่าตัวเองไม่มีงานทำและไม่มีเงินด้วย อีกทั้งตนเองก็ติดยาบ้าด้วยเช่นกันจึงได้ออกตระเวนงัดตู้เติมเงินบุญเติมส่วนเงินที่ได้นั้นตนเองได้นำไปใช้จ่ายรวมทั้งได้ซื้อยาบ้ามาเสพอีกด้วย

หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ภูซางได้ทำการสอบสวนและบันทึกการจับกุมเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้นก็ได้มีการนำตัวผู้ต้องหาส่งให้ทางพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป