ไร้ปาฏิหาริย์ "ยายวัย 70" สิ้นใจอีกรอบ หลังฟื้นคืนชีพ ญาติรอร่างแข็ง ก่อนฌาปนกิจ (มีคลิป)
24 ต.ค. 2562, 14:20
กรณีเกิดเรื่องปาฏิหาริย์กับศพของนางพินิจ โสภาจร อายุ 70 ปี ชาวบ้านอ้อมแก้ว ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี หลังจากป่วยเป็นโรคคอพอก และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 ต.ค.62 ที่ผ่านมา และญาติได้นำศพใส่ในโรงเย็นเอาไว้ 3 วันก่อนจะเคลื่อนศพไปยังวัดอัมพะวัน บ้านดงเย็น เพื่อฌาปนกิจศพที่เมรุ แต่ขณะที่สามีของคุณยายพินิจ คือคุณตาถวิล โสภาจร อายุ 73 ปีจะทำพิธีล้างหน้าศพครั้งสุดท้ายก่อนจะนำเข้าเมรุศพ แต่คุณตาถวิลกลับเห็นภรรยาลืมตาขึ้น ต่างร้องตะโกนทั้งดีใจและตกใจให้ลูก ๆ ทราบว่าแม่ลืมตาแล้วยังไม่ตายยังไม่ตาย และขอร้องนักข่าวงดทำข่าวแม่อีกกวุ่นวาย ส่วนการเผาน่าจะวันนี้รอให้ร่างแม่แข็งก่อนาในวันสองวันนี้วมงานศพ เมื่อเห็นแล้วคงต้องไป
ต่อมาหน่วยกู้ชีพรพ.หนองหานได้เข้ามาปั๊มหัวใจคุณยายพินิจและรีบนำส่งรพ.หนองหาน แต่ทางหมอบอกว่าชีพจรของคุณยายตายหมดแล้ว ทางญาติๆ เห็นว่าชีพจรของคุณยายพินิจยังมีอยู่ จึงได้นำร่างกลับมายังบ้าน และช่วยกับปั๊มหัวใจและนำผ้าห่มมาให้คุณยายพินิจหวังให้ฟื้นกลับมาปกติอีกครั้ง แต่ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง
ล่าสุดวันนี้ (24 ต.ค.62) เวลา 09.00 น.วันนี้ (24 ต.ค.62) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงาน คุณยายพินิจเสียชีวิตจริงอีกรอบแล้ว โดยผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 8 บ้านอ้อมแก้ว อีกครั้ง พบกับลูกๆ หลานๆ ได้นำร่างของคุณยายที่เสียชีวิตจริงถือว่าเป็นการเสียชีวิตครั้งที่ 2 นอนอยู่บนเตียงภายในบ้าน มีดอกไม้ธูปเทียนไว้บนศีรษะ และมีรูปของคุณยายพินิจอยู่ตรงหน้า เขียนว่า แม่พินิจ โสภาจร เกิดวันพฤหัสบดีที่ 19 เดือน 9 พ.ศ.2492 อายุ 70 ปี 2 เดือน 4 วัน ขณะที่ลูก ๆ ของคุณยายพินิจบอกกับนักข่าวว่า ไม่อยากให้เป็นข่าวอีก แม่ไม่อยากวุ่นวาย ส่วนการเผาน่าจะวันนี้รอให้ร่างแม่แข็งก่อน และขอร้องนักข่าวงดทำข่าวแม่อีก อยากให้แม่ไปสบาย ๆ ส่วนการเผาน่าจะวันนี้รอให้ร่างแม่แข็งก่อนในวันสองวันนี้ เมื่อเห็นแล้วคงต้องไป
ขณะที่คุณตาถวิล โสภาจร สามีของคุณยายพินิจ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่เมื่อวานหลังจากนำร่างภรรยากลับมาบ้าน ลูกๆ หลานๆ ก็ช่วยกันหวังให้คุณยายกลับฟื้นชีพขึ้นมา ตนเองก็เฝ้าดูตั้งแต่เมื่อวานจนถึงสว่าง แต่ปาฏิหาริย์คงไม่มีอีกแล้ว เพราะเมื่อเวลา 02.00 น.ของวันนี้ชีพจรของคุณยายพินิจได้อ่อนลง
จนเมื่อเวลา 09.00 น.ทางหมอได้มาตรวจชีพจรอีกครั้งปรากฏว่า ชีพจรเป็น 0 แล้ว และเมื่อปรึกษาลูกๆ คิดว่าคุณยายพินิจคงไปแล้ว ส่วนที่ฟื้นชีพขึ้นมาคงอยากเห็นหน้าลูกหลานทุกคนที่มาร่วมงานศพ เมื่อเห็นแล้วคงต้องไปก็แปลว่าเสียชีวิตจริงแน่นอน ตอนนี้ก็รอร่างให้คุณยายให้แข็ง ทางญาติก็จะนำไปฌาปนกิจศพที่เมรุวัดอัมพะวันอีกครั้ง คุณตาถวิลกล่าวตอนท้าย
คลิป