เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



สาววัย 37 พบกะโหลกในคลอง เรียกกู้ภัยตรวจสอบพบเป็นเรซิ่น 


19 พ.ค. 2567, 11:22



สาววัย 37 พบกะโหลกในคลอง เรียกกู้ภัยตรวจสอบพบเป็นเรซิ่น 




 

เมื่อเวลา 19.45 น. วันที่ 17 พ.ค. 67  เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ได้รับแจ้งจากชาวบ้านให้เดินทางเข้ามาตรวจสอบ  ว่าพบวัตถุคล้ายหัวกะโหลกมนุษย์อยู่ในคลองชลประทานที่น้ำแห้งขอด  เหตุเกิดบริเวณคลองชลประทาน  ทางเข้าบ้านผู้ใหญ่ยุ่ง  หมู่ที่ 2  ตำบลคลองวัว  อำเภอเมือง  จังหวัดอ่างทอง  พร้อมประสาน ร.ต.อ.ยงยุทธ  พยุงญาติ รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองอ่างทอง  เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ  และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน  ลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ

 ในที่เกิดเหตุเป็นคลองชลประทานที่น้ำแห้งขอด  มีถนนลาดยางเลียบคลอง  มีความสูงชันจากพื้นถนนประมาณ 6 เมตร  ทางเจ้าหน้าที่ต้องจับมือกันลงไปตรวจสอบด้วยความยากลำบาก  เนื่องจากดินที่คันคลองเกิดการสไลด์เพราะมีฝนตกลงมาเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา  ใต้พุ่มไม้เจ้าหน้าที่กู้ภัยอาสาป่อเต็กตึ๊ง  พบวัตถุคล้ายหัวกะโหลกมนุษย์ตกอยู่ในคลอง  ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ผ้าคลุมไว้  เพราะไม่อยากทำให้วัตถุพยานเสียหาย  ก่อนที่จะรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเดินทางมาตรวจสอบ 

จากการสอบถาม น.ส. ศรีวรรณ อายุ 37 ปี  ชาวบ้านตำบลคลองวัว  เล่าให้ฟังว่า  เมื่อวานนี้  ตนเองได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาที่บริเวณดังกล่าว  ได้สังเกตเห็นวัตถุคล้านหัวกะโหลกมนุษย์ตกอยู่ในคลองชลประทาน  แต่ก็ไม่ได้นำเรื่องไปบอกใคร  จนกระทั่งวันนี้เกิดความไม่แน่ใจ  จึงได้ตัดสินใจเดินมาดูอีกครั้ง  จึงได้พบกับวัตถุคล้ายกะโหลกศรีษะมนุษย์  แล้วได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้เดินทางมาตรวจสอบ  

ระหว่างนั้น ร.ต.อ.ยงยุทธ  ได้ลงไปส่องไฟตรวจสอบดู  จึงตัดสินใจให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย  ใช้ไม้เขี่ยวัตถุคล้ายกะโหลกดู  ทั้งหมดก็ต้องตกใจและถึงกลับหัวเราะออกมาด้วยความโล่งอก  เพราะวัตถุดังกล่าว  เป็นกะโหลกใบหน้าที่เป็นเรซิ่น  ที่ถูกตัดระหว่างเบ้าตาและหลังศรีษะเพียงครึ่งเดียว  ด้านข้างมีตัวอักษรเขียนว่า KANOKKOON  จึงได้นำขึ้นมาตรวจสอบให้หายข้องใจบนถนน  พบว่าเป็นส่วนกะโหลกศรีษะที่เป็นเรซิ่น  คาดว่าคงจะมีคนนำมาทิ้ง  หรือคิดพิเรนเอามาแกล้งชาวบ้านให้ตกใจเล่น  ก่อนที่จะให้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยเก็บกลับไปด้วยความโล่งอก









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.