กล้องวงจรปิดจับภาพหนุ่มใหญ่ขับรถกระบะพุ่งชนป้อมตำรวจ ซ้ำ2ครั้ง ยังถอยหลังชน 1 ครั้งเท่านั้นไม่หนำใจไม่หายโมโห ถอยชนรถขายไก่ย่างของแม่ค้าที่จอดอยู่ใกล้กันหลายครั้งพังยับเยินยู่ยี่ โชคดีไม่ใครได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์นี้เกินขึ้น บริเวณสี่แยกตลาดดอนปรู ตตำบลดอนปรู อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี  เหตุเกิดเช้ามืดวันที่ 17 พ.ค.67 เวลาตีสามกว่า 

 พ.ต.ต.ประยุทธ์ นุชนาถ พนักงานสอบสวน สภ.ศรีประจันต์  ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนป้อมตำรวจสายตรวจตำบลดอนปรู ได้รับความเสียหาย ไปตรวจสอบเหตุ ที่เกิดเหตุพบป้อมตำราจถูกชนพังเสียหาย ประกอบด้วยโครงเหล็กกันสาดด้านหน้าป้อมพังยับกล้องวงจรปิดที่ติดกับป้อมพังเสียหาย ใกล้ๆกันมีรถขายไก่ปิ้งของแม่ค้าที่จอดไว้ถูกชนพังเสียหายยับเยิน ที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้ารีโว4ประตู มายเลขทะเบียน กบ 4449 สระบุรี สภาพด้านหน้ารถมีรอยชนพังยับเยินยางหน้าด้านซ้ายแตก กันชนท้ายมีรอยชนบุบ ทราบชื่อคนขับ คือนายเอกชัย อายุ 45 ปี ผู้ก่อเหตุ อยู่ในอาการมึนเมาเจ้าหน้าที่จึงให้เป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ครั้งแรกนายเอกชัย ทำท่าหัวหมอไม่ยอมเป่าแต่สุดท้ายก็ต้องเป่าผลปรากฏปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 173 มิลลิกรัมเปอร์เซนเกินกว่ากฎหมายกำหนด

จากการสอบสวนนายเอกชัย  ครั้งแรกนายเอกชัย ให้การว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนขับรถดังกล่าว ตนเองเป็นคนนั่งส่วนคนขับหนีไปแล้วแต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อคำให้การเพราะมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพเอาไว้ได้ขณะเกิดเหตุ จึงนำภาพไปให้พยานซึ่งเป็นคนใกล้ตัวกับนายเอกชัย ดูพยานยืนยันว่าคนขับคือนายเอกชัย  และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดกล้องวงจรปิดให้นายเอกชัย ดูเมื่อจำนนต่อหลักฐาน จึงยอมรับว่าตนเองเป็นคนขับตนเมาและโมโห

โดยก่อนเกิดเหตุตนได้ดื่มเหล้าไป2แบนกว่ากระทั่งตีสองกว่าก็รู้สึกคิดถึงลูกสาวกับลูกชาย ซึ่งอยู่คนละบ้านกัน จึงโทรหาญาติให้ช่วยติดต่อแม่ของลูกให้ช่วยเปิดประตูเพราะตนกับแม่ของลูกไม่คุยกัน แต่ญาติไม่ยอมติดต่อบอกให้ตนนอนรอที่ป้อมตำรวจใกล้กัน ไปก่อนสว่างแล้วค่อยเข้าบ้านด้วยความเมประกอบกับโมโหตนญาติจึงขับรถชนป้อมตำรวจแบบขาดสติ

ทางด้านนางยุพิน อายุ 63 ปีแม่ค้าขายไก่ย่างเจ้าของรถเข็นที่ถูกชนพังเสียหายซึ่งเป็นญาติกับผู้ก่อเหตุ เล่าว่าเมื่อคืน นายเอกชัย ได้โทรชวนตนเองให้พามาหาลูกที่บ้าน ตนได้บอกว่าให้ไปนอนพักที่ป้อมตำรวจข้างบ้านก่อนเดี๋ยวเช้าป้าตามไป ตนคิดว่านายเอกชัย จะมารอที่ป้อม กระทั่งเช้ามีคนโทรไปบอกว่านายเอกชัย ขับรถชนป้อม และยังชนรถขายไก่ย่างของตนจนพังยับเยิน ตอนที่ตนเองเห็นรถไก่ย่างตนพังนั้นก็ตกใจคิดว่าเสียหายเล็กน้อยไม่คิดว่าจะขยี้รถป้าพังจนไม่เหลือชิ้นดีแบบนี้ พอเห็นภาพในกล้องวงจรปิด ก็รู้สาเหตุที่รถไก่ย่างของตนทำไม่ถึงพังยับเยิน ได้อุทานว่าถอยชนไม่พอแถมขยี้อีก 

ทางด้าน พ.ต.ต.ประยุทธ์ นุชนาถ พนักงานสอบสวน เจ้าของคดีกล่าวว่าหลังเกิดเหตุได้มาตรวจสอบที่เกิดเหคุครั้งแรกคิดว่าเป็นอุบัติเหตุจากการเมาสุราขับรถแล้วเกิดอุบัติเหตุ่ธรรมดา  แต่พอมาเปิดดูกล้องวงจรปิดพบว่าเป็นอุบัติเหตุที่ตั้งใจให้เกิดความเสียหายซึ่งทรัพย์สินที่เสียหายเป็นที่พักตำรวจสายตรวจประจำตำบล นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินของชาวบ้านที่ถูกกระทำให้เกิดความเสียหายลักษณะเดียวกันอีก เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาเมาสุราขณะขับรถ  ทำให้เสียทรัพย์ เบื้องต้นผู้ก่อเหตุยอมรับว่าจะชดใช้ค่าเสียหาย 

การกระทำของผู้ก่อเหตุครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ก่อนหน้านี้เคยถูกจับเมาแล้วขับ อยู่ระหว่างบำเพ็ญประโยชน์สาธารณะรอบสุดท้ายสิ้นเดือนนี้แต่ไม่เข็ดหลาบกลับมาก่อเหตุที่หนุกขึ้นกว่าเดิมอีก ซึ่งทางพนักงานสอบสวนต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนก่อนส่งฟ้องศาลจังหวัดสุพรรณบุรี เพราะอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000 – 100,000 บาท หรืออาจถูกศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ จากการตรวจสอบประวัติ ผู้ก่อเหตุรายนี้เคยถูกดำเนินคดีเมาแล้วขับมาแล้ว1ครั้ง