ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า  นายจตุพร อิ่มจิตร เกษตรอำเภอทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้​เปิดเผยกับผู้สืื่่อข่าวว่า​ ได้ มอบหมายให้นายสุเมธ หงษ์สาชุม นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยจากลมกรรโชกแรงที่ส่งผลให้ต้นไม้หักโค่นเสียหาย บริเวณบ้านป้าสงัด ชวนขยัน หมู่ที่ 2 ตำบลสหกรณ์นิคม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี​ จากเหตุการณ์ลมกรรโชกแรงที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ต้นยางขนาดใหญ่​ อายุกว่า​ 40​ ปี​ หักโค่นล้มระเนน และลูกทุเรียนร่วงหล่นอีกเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว และแนะนำให้เกษตรกรหมั่นตรวจสอบสภาพต้นไม้ในสวนของตนเอง เร่งตัดแต่งกิ่งก้านที่อ่อนแอหรือมีรอยแตก เพื่อป้องกันมิให้เกิดอันตรายจากต้นไม้หักโค่นในช่วงที่มีพายุฝนหรือลมแรง

 

สำหรับในพื้นที่บ้านสะพานลาว ในปีนี้กำลังประสบปัญหาความแห้งแล้ง ที่ซึ่งไม่เคยปรากฎมาก่อน จนทำให้ชาวสวนทุเรียนในพื้นที่จำนวนมาก ต้องยืนต้นตาย ทางเกษตรจังหวัดกาญจนบุรี  ได้เชิญหน่วยงานร่วมประชุมกับเกษตรกรในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน  โดยในที่ประชุมแจ้งแก่เกษตรกร ได้ทำการจัดหาแหล่งกักเก็บน้ำให้เพียงพอในปีต่อไป เนื่องจากในปีต่อไปสภาพอากาศจะเป็นเช่นใด  ส่วนเบื้องต้นทางเกษตรจังหวัดฯ  จะทำเรื่องขอไปยังทางกรมน้ำบาดาลเขต 2 สุพรรณบุรี  เพื่อลงไปสำรวจขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล รวมถึงเร่งด่วนได้ขอไปทางกรมฝนหลวง เพื่อให้ช่วยทำฝนหลวง เพื่อแก้ปัญหากับเกษตรกรชาวสวนทุเรียน เร่งด่วนเบื้องต้น เพื่อเป็นการรักษาต้นทุเรียนที่ยังเหลืออยู่ให้รอดจากการยืนต้นตายออกไปมากกว่านี้  

 

ซึ่งปัญหาดังกล่าวที่ผ่านมาชาวสวนผลไม้ในอำเภอทองผาภูมิ  แจ้งว่าตั้งแต่ประกอบอาชีพทำสวนเกษตรมาไม่ต่ำกว่า 50 ปี  ก็ไม่เคยพบเจอกับปัญหาภัยแล้งมาก่อน ในพื้นที่บ้านสะพานลาว สภาพอากาศในพื้นที่จะดีมาตลอด เพิ่งมาพบเจอปัญหาภัยแล้งปีนี้ เป็นปีแรก และต่อมาก็เกิดพายุฝนกระหน่ำจนทำให้ชาวสวนได้รับความเสียหายกันถ้วนหน้า ซึ่งผลไม้ในพื้นที่ประกอบด้วย สวนทุเรียนไม่ต่ำกว่า 2 พันไร่ สวน เงาะ สวนลองกอง  สวนลิ้นจี่ และผลไม้อื่นๆ  ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า คาดว่าปีนี้ผลไม้ในพื้นที่เหลือไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ของอำเภอทองผาภูมิ

 

และจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งมานาน เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา ก็ได้เกิดมีฝนตกลงมาในหลายอำเภอของพื้นที่ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และจากที่ฝนได้ตกติดต่อกันมา โดยเฉพาะอำเภอทองผาภูมิ จนทำให้น้ำชุ่มจนต้นทุเรียน จำนวนมากเกิดล้มจากแรงพายุพัดกระหน่ำรุนแรง และลูกทุเรียนที่ยังไม่ได้เวลาที่จะเก็บเกี่ยวได้เกิดล่วงหล่นเสียหายเป็นจำนวนมาก ชาวสวนทุเรียนบางรายเคยเก็บทุเรียนสร้างรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 2 – 3 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะมีรายได้สัก 2 แสน จนถึงเวลานี้ความหวังที่ตั้งไว้ละลายสิ้นเดือดร้อนหนักมากซึ่งไม่เคยเจอมาก่อน และจนถึงวันนี้ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ ยังเกิดฝนตกต่อเนื่อง./