จากกรณีที่พ่อค้าแม่ค้ารวมตัวกัน 33 ร้าน ไป ที่ ศูนย์ราชา การจังหวัดสระบุรี (ศาลากลางหลังใหม่) เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสระบุรี   กรณี  ที่ถูกโรงพยาบาลสระบุรีลอยแพร ยกเลิกการขายของไม่ว่าจะเป็น ข้าวราดแกง อาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว เป็ด หมู ไก่ เนื้อ พร้อมขนมหวานและผลไม้ รวมทั้งหมด  33  ร้าน  เนื่องด้วยก่อนหน้านี้มี การประกาศรับ ประมูลการแข็งขัน  โรงอาหารของโรงพยาบาลสระบุรี  มีพ่อค้าแม่ค้าไปสมัครแข็งขันเป็นจำนวนมาก  หลักเกรณฑ์มีการจับฉลาก โดยเป็นร้านเล็กถ้าไม่มีคู่แข่งให้ถือว่า ชนะ ให้มาขายของได้ที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้  ส่วนร้านใหญ่เหล่านี้ต้องมีการแข่งขันโชว์ฝีมือทำอาหารให้เจ้าหน้าที่ชิม แต่ละร้าน แต่ละประเภทพร้อมตัดสิน ถ้าร้านไหนทำอร่อยผ่านเข้าไปถือว่าเป็น ผู้ชนะ เข้าขายได้เลย  ตามกฎเกรณฑ์ที่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลวางไว้ และบอกว่าจะมีการทำสัญญาจะให้คำตอบอีกครั้งหนึ่ง ร้านที่ได้ผ่านกฎเกรณฑ์เข้ามา ต่างดีใจ พากันลงทุน ซื้อข้าวของ เครื่องใช้  เข้าร้านเพื่อจะทำการขาย แต่ขายได้แค่ 3-4 เดือน ได้มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้เรียกพ่อค้าแม่ค้าขึ้นไปประชุม ต่างดีใจนึกว่าจะได้ทำสัญญา จึงได้พากันขึ้นไปประชุมรับฟัง   ผลปรากฏว่า เจ้าหน้าที่กับบอกว่า  ทางโรงพยาบาลได้ขาดทุน  จะขอยกเลิกการขายของในโรงอาหาร ทั้งหมด เนื่องจากมีบริษัทเอกชนเข้ามารับเหมาทั้งหมดแล้ว จึงได้ชี้แจงให้พ่อค้าแม่ค้าได้ทราบ และจะให้เลิกขายกลางเดือนมิถุนายนทั้งหมด 

พ่อค้าแม่ค้าจึงถามว่า ทำไมต้องให้บริษัทเอกชนมารับเหมาทั้งๆที่พวกตนเองพึ่งเข้ามาขายยังไม่ครบปี  ก่อนที่จะมีการทำสัญญา อย่างงี้ทางโรงพยาบาลก็ ลอยแพรพวกตนเอง เจ้าหน้าที่รพ.บอกว่า ถ้าอยากขายให้ไปติดต่อกับบริษัทเอกชนกันเอง พ่อค้าแม่ค้าถามว่า บริษัทชื่ออะไร ก็ไม่บอกและขอเบอร์โทร ก็ไม่มีให้ 

ต่อมามีการเรียกพ่อค้าแม่ค้าขึ้นประชุมอีกครั้งหนึ่ง เจ้าหน้าที่รพ.ได้บอกว่า จะมีที่สำรองให้ขาย โดยในใบกระดาษมีข้อความว่า 1 ก.ค. – 30 ก.ค.จะให้ขายของก่อน ภายใน 1 เดือน ให้เซ็นเพื่อจะดูว่ามีกี่ร้าน  พวกตนส่วนใหญ่จึงได้เซ็นชื่อในใบที่เตรียมไว้ให้ เพื่อเป็นสิทธิ์จะได้ลงไปขายของในพื้นที่ที่จัดให้ จึงมารู้ภายหลังว่า ที่เซ็นทั้งหมดเท่ากับยินยอม ว่าตนเองออกจากโรงอาหารในโรงพยาบาลแล้ว พวกตนจึงได้รีบมาร้องขอความเป็นธรรมจากศูนย์ดำรงธรรมอีกครั้งหนึ่ง ที่ตนเองหลงเซ็นชื่อให้กับทางโรงพยาบาลแล้ว กลัวว่าจะไมได้ขายของที่เดิม จึงอยากให้ศูนย์ดำรงธรรมให้เป็นคนกลางไปเจรจากับทางโรงพยาบาล เพื่อหาทางช่วยเหลือพวกตนเอง จะได้ขายของที่โรงพยาบาลเหมือนเดิม พ่อค้าแม่ค้าจึงได้ยื่นข้อเสนอ 4ข้อ 

1. ขอจำหน่ายอาหารในพื้นที่เดิม ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ถึงวันที่ 31 มีนาคม  2563
2 ยินยอมชำระค่าเช่าเพิ่มจากเดิมไม่เกินร้อยละ 20% ต่อเดือน
3 เมื่อครบกำหนดเวลา ยินยอมออกจากพื้นที่โดยไม่มีเงื่อนไข หากไม่ออก ยินยอมให้ทางโรงพยาบาลสระบุรี ดำเนินการตามกฎหมายได้
4 ทั้งนี้ขอให้โรงพยาบาลพิจารณาข้อเสนอภายในวันที่ 7 มิถุนายน 2562 ให้กับพ่อค้าแม่ค้าทราบ แต่ถ้าไม่ยินยอมให้พวกตนขายที่เดิม พวกตนก็ไม่ขอออกจากพื้นที่ เพราะว่าไม่รู้จะไปขายที่ไหน ส่วนนายยอดชาย ภู่แก้ว  ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสระบุรี ได้รับเรื่องราวข้อเสนอของพ่อค้าแม่ค้าไปเจรจากับทางโรงพยาบาลเพื่อหาทางยุติต่อไป