เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติผาแดง รวบผู้บุกรุกป่า เผยเตรียมพื้นที่ปลูกข้าวและข้าวโพด
28 พ.ค. 2567, 17:35
วานนี้ (27 พ.ค.67) นายประกาศิต ระวิวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติผาแดง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2567 เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามสายตรวจส่วนกลางอุทยานแห่งชาติผาแดง ออกลาดตระเวนตรวจสอบพื้นที่ถือครองที่ดินทำกินมาตรา 64 ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 บริเวณป่าด้านทิศใต้ บ้านไชยา หมู่ที่ 9 ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
กระทั่งเวลาประมาณ 13.40 น. ของวันที่ (26 พ.ค.) พบชายหนึ่งคนกำลังใช้คราด เก็บ ริบ สุมวัชพืช ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอเข้าตรวจสอบ และบริเวณใกล้จากจุดเกิดเหตุ พบชายอีกหนึ่งคนกำลังใช้เครื่องพ่นยาแบบสะพายพ่นยาในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอเข้าตรวจสอบ จากการตรวจสอบพื้นที่เปรียบเทียบกับภาพถ่ายดาวเทียมOrtho สี ปี 2545 พบการใช้พื้นที่บางส่วน แต่ไม่พบการแจ้งใช้ประโยชน์ที่ดิน ตามมาตรา 64 ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และเปรียบเทียบภาพถ่ายดาวเทียม ปี พ.ศ. 2557 ไม่พบร่องรอยการใช้ประโยชน์แต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมชายทั้งสองไว้เนื่องจากการกระทำดังกล่าวมีความผิดตามกฎหมาย และควบคุมตัวชายทั้ง 2 ราย มาที่ทำการอุทยานแห่งชาติผาแดง เพื่อสอบสวน ทราบชื่อผู้ต้องหาภายหลัง ชื่อนายทูล อายุ 54 ปี ชาวตำบลเมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และนายก่อย อายุ 34 ปี ชาวตำบลเมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
จากคำให้การของนายทูลและนายก่อยให้การว่า พวกตนได้เข้ามาบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ ประมาณปี พ.ศ.2565 โดยการตัดฟันโดยลำพังไม่ได้ว่าจ้างผู้ใด และในปัจจุบัน (พ.ศ.2567) พวกตนกำลังเตรียมพื้นที่เพื่อปลูกข้าวไร่ และข้าวโพด โดยการขอแรงงานร่วมกับเพื่อนบ้าน ซึ่งในแปลงของนายทูล ได้บุกรุกพื้นที่ จำนวน 9-1-35 ไร่ และแปลงของนายก่อย บุกรุกพื้นที่ จำนวน 3-0-88 ไร่
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา กับนายทูลและนายก่อย ดังนี้
1. ฐาน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า เก็บหาของป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเอง หรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. ฐาน ยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออาศัยอยู่ในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 และมาตรา 31 (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ ฉบับที่ 4 พ.ศ.2559) ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปีและปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
3. ฐาน ยึดถือ หรือครอบครองที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำการใดๆ ให้เสื่อมสภาพ หรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิมในเขต อุทยานแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19(1) มาตรา 41 ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี หรือปรับตั้งแต่สี่แสนบาทถึงสองล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ มาตรา 56 บรรดาไม้ สัตว์ป่า ทรัพยากรธรรมชาติอื่นใดที่มีอยู่ในอุทยานแห่งชาติ ที่บุคคลได้มาจากการกระทำผิด หรืออาวุธ เครื่องมือ เครื่องใช้ ที่บุคคลได้ใช้ในการกระทำผิด หรือมีไว้เพื่อใช้กระทำผิด ให้ริบเสียทั้งสิ้น โดยไม่ต้องคำนึงว่าเป็นของผู้กระทำผิด และมีผู้ลงโทษตามคำพิพากษาของศาลหรือไม่
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติผาแดง จึงนำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.นาหวาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป