จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา นายเนติเจน อายุ 28 ปี ยูทูบเบอร์ชื่อดังของเมืองไทยใช้ชื่อช่องว่า “SpriteDer SPD” มีคนติดตามมากกว่า 14 ล้านคน และมีจำนวนผู้ชมมากกว่า 3.38 พันล้านครั้ง พร้อมทีมงานที่เป็นฝรั่งผมสีทองคู่หู ได้ขับรถหรูยี่ห้อ Tesla สีดำ ทะเบียน 3 ขจ 1496 กรุงเทพมหานคร ขับลงไปทำคอนเทรนของช่องบนชายหาดแหล่งท่องเที่ยวสวยงามและเป็นสถานที่ออกกำลังกายพักผ่อนหย่อนใจติดกับสวนสาธารณะบริเวณชายหาดปากน้ำหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร เพื่อจะทำคอนเทรนขับรถเก๋งคันหรูวิ่งเล่นลูกลมบนชายหาดดังกล่าว

          ปรากฏว่านายเนติเจน พร้อมทีมงานได้ขับรถลงวิ่งไปบนชายหาดได้ประมาณ 100 เมตร รถเก๋งคันหรูได้ติดหล่มทรายบนชายหาดที่มีคลื่นน้ำทะเลซัดถึง จนไม่สามารถวิ่งต่อไป ท่ามกลางแฟนคลับที่ส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชน ลงไปห้อมล้อมและขอถ่ายภาพร่วมกับยูทูบเบอร์คนดังกับทีมงาน 

              ต่อมามีรถยกในพื้นที่ขับลงไปบนชายหาดใช้ลวดสลิงชักลากรถเก๋งคันหรูขึ้นมาบนชายฝั่งอย่างทุลักทุเลอย่างไรก็ตามเป็นพฤติกรรมดังกล่าวได้ถูกนักท่องเที่ยวและชาวบ้านในพื้นที่วิพากษ์วิจารณ์ ถึงความที่ไม่เหมาะสมและถือเป็นแบบอย่างไม่ดีให้กับเด็กและเยาวชนที่เป็นแฟนคลับ

        จากเหตุการณ์ดังกล่าวล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 28 พ.ค.นี้ปรากฏว่ามีทีมงานของช่องยูทูบ“SpriteDer SPD” จำนวน 4 คนประกอบด้วย 1.นายตองชา  อายุ 28ปี  2.นายพรหมเมศ 27 ปี 3.นายสัณหวัช  อายุ 24 ปี 4.นายแสงจ้า อายุ 22 ปี ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุริยนต์  ชมมี ผกก.สภ.ปากน้ำหลังสวน เพื่อชี้แจงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการทำคอนเทรนพร้อมกับให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน 

      แต่ทีมงานของชื่อยูทูบเบอร์ชื่อดังทั้ง 4 คน ไม่สะดวกให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเท่านั้นและขอความชัดเจนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง  โดยอ้างว่า ถ้าพูดออกไปจะกระทบต่อบริษัท

       ด้านพ.ต.อ.สุริยนต์  ชมมี ผกก.สภ.ปากน้ำหลังสวน  กล่าวว่า ตามที่เป็นข่าวกรณีได้มียูทูบเบอร์ชื่อดังขับรถยนต์เก๋งไฟฟ้าขับลงชายทะเลเพื่อทำคอนเทรน ต่อมารถติดหล่มทรายต้องใช้รถยกนำดึงขึ้นจากชายหาดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นเกิดมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสมตามที่เป็นข่าว 

           หลังจากนั้นทางสภ.ปากน้ำหลังสวน ได้เรียกทีมทำคอนเทรนมารับทราบข้อกล่าวหา  เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันกระทำการใดๆอันเป็นการกระทำให้ผู้อื่น เดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน  หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ทั้งหมดเดินทางมาด้วยการสำนึกผิด จึงเปรียบเทียบปรับคนละ 5,000   บาท  ส่วนผู้ต้องหา 1 ราย คือ นายเนติเจนฯ คนขับรถเก๋ง ได้ติดต่อมายังพนักงานสอบสวนว่าขณะนี้ได้เดินทางไปประเทศเกาหลี เมื่อกลับมาประเทศไทยจะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาทันที

       ผกก.สภ.ปากน้ำหลังสวน  กล่าวอีกว่า  หลายคนถามมีกฎหมายที่หนักกว่านี้ไหม จริงแล้วมีพ.ร.บ.การส่งเสริมบริหารการจัดการธรรมชาติชายฝั่งทะเล กฎหมายนี้จะมีโทษหนักจำคุก 1 ปี ปรับ 100,000 บาท แต่กฎหมายฉบับนี้ แต่ละจังหวัดต้องตั้งอนุกรรมการพิจารณากฎหมาย เพื่อนำเสนอคณะกรรมการใหญ่ของกระทรวง โดยมีนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งตรวจสอบทางจังหวัดชุมพรแล้วอยู่ในระหว่างดำเนินการ  สำหรับเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นในจังหวัดชุมพรเป็นครั้งแรก คาดว่าอนาคตต้องมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำขึ้นอีก”