นายกฯ สั่งทุกหน่วยงานด้านการต่างประเทศ ทำงานเป็นทีม ตามยุทธศาสตร์การทูตเชิงรุกเพื่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประชาชนไทย
30 พ.ค. 2567, 09:33
วันที่ 30 พฤษภาคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีสั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการต่างประเทศทำงานเป็นทีม ตามยุทธศาสตร์การทูตเชิงรุกเพื่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประชาชนไทย ส่งผลต่อยอดความสำเร็จในหลายเรื่อง โดยในส่วนของความคืบหน้าการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยและมาเลเซียถือว่าทำได้คืบหน้ามากนับตั้งแต่มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ MOU ไทย-มาเลเซีย เพื่อร่วมกันสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนระหว่างกันเมื่อปี 2515
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศ จัดโครงการการทูตเชิงรุกเพื่อประชาชนพื้นที่ชายแดนใต้ ระหว่างวันที่ 28 - 30 พฤษภาคม 2567 นำคณะสื่อมวลชนสำรวจความคืบหน้าโครงการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยและมาเลเซีย ในแม่น้ำโก-ลก ซึ่งทำให้ทราบข้อมูลสำคัญว่าการกำหนดเขตแดนระหว่างไทย-มาเลเซียมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมเมื่อเทียบกับพื้นที่ชายแดนอื่นๆ ซึ่งการทำให้เส้นเขตแดนไทย-มาเลเซีย ที่สยามกับอังกฤษตกลงกันไว้เมื่อ ปี 2452 มีความชัดเจนจะสนับสนุนภารกิจด้านความมั่นคง ป้องกันปัญหาอาชญากรรม และเป็นผลประโยชน์ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ
“นายกรัฐมนตรีมุ่งมั่นที่จะพัฒนาพื้นที่ชายแดนภาคใต้ให้เจริญ มีปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ดี ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่วิถีชีวิตที่ดี ซึ่งตลอดเวลาการรับตำแหน่งที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้พบกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียแล้วถึง 4 ครั้ง และทุกครั้งมีการพูดคุยอย่างเป็นกันเองและเต็มไปด้วยมิตรภาพ ส่งผลเอื้อประโยชน์ต่อความสำเร็จในทุกๆ ด้าน”
“ซึ่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ด้วยตัวตนความเป็นคนตั้งใจทำงาน เอาจริงเอาจัง และต้องการดูแล ประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ของนายกรัฐมนตรี จึงทำให้ผู้นำมิตรประเทศ ที่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเห็นด้วยกับวิสัยทัศน์ แนวทางการทำงาน การดำเนินนโยบายที่เต็มไปด้วยยุทธศาสตร์เพื่อประเทศชาติและประโยชน์ร่วมกันของนายกรัฐมนตรี” นายชัย กล่าว