เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2567 ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237ตำบลไชยบุรี อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม พล.ต.ท.ยงเกียรติ มนปราณีต ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ( ผบช.ตชด. ) พร้อมด้วย พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผกก.ตชด. 23, พ.ต.ท.ธนพล ท้าวหนู รองผกก.ตชด.23 และพ.ต.ท.เรวัฒ จำปาน ผู้บังคับกองร้อย ตชด.237 แถลงตำรวจ ตชด.237 จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมยาบ้า 336,000 เม็ด

พล.ต.ท.ยงเกียรติฯ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2567 ตชด.237 รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการนัดส่งมอบยาบ้า ที่บริเวณริมถนนหลวงหมายเลข 212  บ้านพนอมเหนือ ตำบลพนอม อำเภอท่าอุเทน จว.นครพนม ตำรวจ ตชด. 237 จึงวางกำลังซุ่มดู กระทั่งเวลาประมาณ 19.45 น. พบกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์มา 3 คัน รวม 6 คน ถึงที่เกิดเหตุ ทิ้งสิ่งของบางอย่างลง ก่อนขับขี่รถออกไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังซุ่มดูต่อ กระทั่งอีก 15 นาทีต่อมา มีชาย 2 คน ขี่รถยนต์กระบะ 4 ประตูมาจอดตรงจุดที่กลุ่มวัยรุ่นทิ้งสิ่งของไว้ ชายหนึ่งคนลงจากรถหยิบกระสอบดังกล่าว ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม ชายดังกล่าววิ่งขึ้นรถขับหนีไปอย่างเร็วก่อนทิ้งกระสอบลง ตำรวจตามไล่ล่าจนรถคนร้ายเสียหลักพลิกคว่ำ ตำรวจจึงสามารถควบคุมตัว นายสุเทพฯ อายุ 28 ปี และ นายสุนทรฯ  อายุ 24 ปี ชาว อ.ท่าอุเทน จว.นครพนม ไว้ได้ จากนั้นนำตัวไปยังจุดที่ทิ้งกระสอบต้องสงสัยลง พบเป็นยาบ้ารวม 336,000 เม็ด สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ยาบ้าทั้งหมดเป็นของตนเองจริง และจะนำไปส่งต่อให้กับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ตอนใน จึงได้นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อกล่าวหาว่า จำหน่ายยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและ ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป

ผบช.ตชด.กล่าวด้วยว่า การตรวจยึดยาบ้าในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการป้องกันปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดน โดยให้เพิ่มความเข้มงวดและเพิ่มมาตรการในการปราบปราม เพื่อมิให้มีการขนย้ายยาเสพติดเข้าสู่ตอนในของประเทศ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาตำรวจตระเวนชายแดน และหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ ได้ร่วมมือกันตรวจยึดยาเสพติดจากขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติลักลอบขนจากประเทศเพื่อนจำนวนมาก ในโอกาสนี้ขอชื่นชม และให้กำลังใจชุดจับกุม ของกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 ที่เป็นหน่วยหลักในการตรวจยึดยาบ้าในครั้งนี้ ขอให้ทุกหน่วยได้ร่วมมือกันทั้งด้านการข่าว การลาดตระเวน และการจับกุม เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศต่อไป