เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



รวบตัว ! "คู่รักนักค้ายา" หนีหมายจับยาเสพติด กบดานเมืองกรุง พบปืนเถื่อน-เคตามีน ซุกห้องพัก


13 มิ.ย. 2567, 13:07



รวบตัว ! "คู่รักนักค้ายา" หนีหมายจับยาเสพติด กบดานเมืองกรุง พบปืนเถื่อน-เคตามีน ซุกห้องพัก




ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้เร่งรัดปราบปรามยาเสพติดในชุมชนที่บ่อนทำลายสังคม บ้านเมืองตามนโยบายของรัฐบาลนั้น

โดยเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ สืบนครบาล ได้จับกุมตัว คือ นายชาคริต อายุ 22 ปี ข้อกล่าวหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามมีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำด้วยการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ตามหมายจับศาลจังหวัดปราจีนบุรี ที่ 50/2567 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2567 และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ,มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”



พร้อมด้วยของกลาง

1.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (เคตามีน) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบซองเปิด-ปิด น้ำหนักรวมถุง 1.73 กรัม น้ำหนักเฉพาะยา 0.89 กรัม

2.อาวุธปืนสั้นไม่มีหมายเลขทะเบียน ขนาด .380 นิ้ว จำนวน 1 กระบอก บรรจุอยู่ภายในของกลางรายการที่ 4

3.ซองบรรจุกระสุนปืน ขนาด .380 นิ้ว จำนวน 1 ซอง บรรจุอยู่ภายในของกลางรายการที่ 2

4.ซองปืนพกใน จำนวน 1 ซอง

5.กระสุนปืน ขนาด .380 นิ้ว จำนวน 6 นัด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบซองเปิด-ปิด

และจับกุม น.ส.รัตนมน อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ

ศาลจังหวัดปราจีนบุรี ที่ 51/2567 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2567

ข้อหา "ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามมีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำด้วยการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน"

จับกุมได้ที่ บริเวณหน้าอพาร์ทเมนท์และภายในห้องพัก แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร


พฤติการณ์แห่งคดี เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันวางแผนให้สายลับติดต่อล่อซื้อยาเสพติดจาก นายชาคริต ขอซื้อยาบ้าจำนวน 1 มัด (2,000 เม็ด) ในราคา 180,000 บาท โดยสายลับได้ขอเครดิตจ่ายเงินก่อน จำนวน 2,000 บาท แล้วจะทยอยจ่ายเงินส่วนที่เหลือให้ในภายหลัง ซึ่งนายชาคริตฯ ตกลงจำหน่ายยาบ้าให้กับสายลับ โดยให้สายลับโอนเงินค่ายาบ้าเข้าบัญชีธนาคารชื่อบัญชี น.ส.รัตนมน ภรรยาของนายชาคริตฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้สายลับโอนเงินจำนวน 2,000 บาท เข้าบัญชีดังกล่าว นัดหมายส่งมอบยาบ้ากันที่บริเวณกำแพงรั้วสถานีไฟฟ้าแรงสูงปราจีนบุรี 2 จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.30 น. ของวันที่ 18 มกราคม 2565 นายณภัทร ผู้ต้องหาได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟสีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน นำเอายาบ้ามาโยนวางไว้ที่บริเวณมุมกำแพงรั้วสถานีไฟฟ้า แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามจับกุม ควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ข้างร้านสะดวกซื้อ สาขาระเบาะไผ่ ตรวจค้นตัวแล้วพบโทรศัพท์ จำนวน 1 เครื่อง ถืออยู่ในมือข้างขวาผู้ต้องหา เมื่อทำการตรวจสอบข้อมูลพบว่ามีการโทรติดต่อกับนายชาคริตฯ ผ่านแอปพลิเคชันแมสเซนเจอร์

เมื่อสอบถามผู้ต้องหาแล้วรับว่าตนเป็นลูกน้องของนายชาคริตฯ จริง ได้รับการว่าจ้างจากนายชาคริตให้นำเอายาข้าไปวางให้กับลูกค้าของนายชาคริตฯ ครั้งละ 1 มัด (2,000เม็ด ) จะได้ค่าจ้าง จำนวน 500 บาทและรับว่าเพิ่งนำเอายาบ้าไปโยนไว้ที่ข้างกำแพงรั้วสถานีไฟฟ้า จำนวน 1 มัด (2,000 เม็ด) และสมัครใจนำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปยังจุดที่โยนยาบ้า และตรวจยึดยาบ้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยึดสิ่งของทั้งหมดไว้เป็นของ กลางแล้วจับกุม ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถาม นายชาคริต รับว่าตั้งแต่นายณภัทร หรือบัง ซึ่งเป็นลูกน้องถูกตำรวจจับในข้อหาจำหน่ายยาบ้า ตนและภรรยา(น.ส.รัตนมน) ซึ่งถูกจับกุมในครั้งนี้ด้วย ก็เดินทางเข้ามากรุงเทพเพื่อกบดาน ช่วงประมาณก่อนวันที่ 13 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา โดยพักอาศัย ที่ห้องเช่ารายวันย่านลาดกระบัง ก่อนที่ศาลจะออกหมายจับ ตนอาศัยอยู่อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ช่วงเวลาปี 2565 ตนรู้จักกับรุ่นพี่คนหนึ่งชื่อปรั่ง (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) รุ่นพี่คนนี้แนะนำให้รู้จักพ่อค้าขายยาบ้าโดยแนะนำให้รู้จักทางโทรศัพท์ จากนั้นตนจึงได้ติดต่อทางโทรศัพท์จากคนที่รุ่นพี่แนะนำ จากนั้นก็ติดต่อซื้อขายยาบ้า โดยทุกครั้งที่สั่งยาบ้า จะนำยาบ้ามาวางไว้ตามจุดที่วางไว้ จำนวน หลายครั้ง ครั้งมากสุดสั่งซื้อ 50 มัด(1 แสนเม็ด) โดยโอนเงินค่ายาทางตู้ฝากเงิน พอรับยามาตนก็กระจายยาบ้าไปยังจุดต่างๆ ด้วยตนเอง โดยช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา มีเงินหมุนเวียนในบัญชี 7-10 ล้านบาท เหตุที่ออกหมายจับครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจล่อซื้อยาบ้า จำนวน 1,000 เม็ด โดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ซึ่งเป็นบัญชีของน.ส.รัตนมน (ภรรยาของตน) แต่ตนให้นายณภัทร ซึ่งเป็นลูกน้องไปส่งยาแทนตน เจ้าพนักงานจึงได้ทำการจับกุมนายณภัทร ฯ ซึ่งขณะนี้จำคุกอยู่ที่เรือนจำ ศาลได้ทำการตัดสินจำคุกเป็นเวลา 8 ปี ต่อมาตำรวจได้ทำการขยายผลออกหมายจับตนและภรรรยา จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาเเละของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.อุดมสุข เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือนว่า พิษภัยหรือโทษของสารเสพติดที่เกิดแก่ผู้หลงผิดไปเสพสารเหล่านี้เข้า ซึ่งเป็นโทษที่มองไม่เห็นชัด เปรียบเสมือนเป็นฆาตกรเงียบ ที่ทำลายชีวิตลงไปทุกวัน ก่อปัญหาอาชญากรรม ปัญหาสุขภาพ ก่อความเสื่อมโทรมให้แก่สังคมและบ้านเมืองอย่างร้ายแรง เพราะสารเสพติดทุกประเภทที่มีฤทธิ์เป็นอันตรายต่อร่างกายในระบบประสาท สมอง ซึ่งเปรียบเสมือนศูนย์บัญชาการของร่างกาย การติดสารเสพติดเหล่านั้นจึงไม่มีประโยชน์อะไรเกิดขึ้นแก่ร่างกายเลย แต่กลับจะเกิดโรคและพิษร้ายต่างๆ จนอาจทำให้เสียชีวิต หรือ เกิดโทษและอันตรายต่อครอบครัว เพื่อนบ้าน สังคม






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.