ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเกิดเหตุเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ทราบชื่อ คือ ด.ญ.อลิส (นามสมมุติ) จมน้ำเสียชีวิตในสระน้ำกลางทุ่งนาห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านค้อ ต.คอนกาม อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ ระยะทางจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ไปยังจุดเกิดเหตุ ประมาณ 800 เมตร ซึ่งทางครอบครัวของน้องอลิส ติดใจสาเหตุของการเสียชีวิต และเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมอำพราง โดยล่าสุด ทางแพทย์ชันสูตร รพ.ศรีสะเกษ ได้ให้ผลการชันสูตรว่า น้องอลิสจมน้ำเสียชีวิต หลังจากนั้น ทางครอบครัวของน้องอลิส ได้นำร่างส่งต่อที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อทำการชันสูตรอีกครั้ง ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้ว นั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปริญญา มณีวงศ์ พร้อมด้วย น.ส.พุทธมาลย์ นามจุมจัง และ น.ส.ทองทิพย์ มณีวงษ์ ซึ่งเป็นพ่อ แม่ และ ย่า ของน้องอลิส  เข้าทำการให้ปากคำเพิ่มเติมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยนำรองเท้าที่น้องอลิสใส่ไปโรงเรียนในวันที่เกิดเหตุ พร้อมรองเท้าที่น้อง อลิส ชอบใส่ นำมามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมี พ.ต.ท.วีระจักร์  จรรยากรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.ยางชุมน้อย พร้อมด้วยชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ยางชุมน้อย นำการสอบสวนในครั้งนี้ สำหรับการสอบสวนในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการแยกสอบสวน พยานแต่ละปาก เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมในการสอบสวนคดี

นายปริญญา มณีวงศ์ พ่อของน้องอลิส เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาในวันนี้ เพื่อให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมนำหลักฐานเพิ่มเติมประกอบด้วย รองเท้าของน้องอลิสที่ชอบใส่ และรองเท้าที่ใส่อยู่ที่บ้าน มามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อวัดความใกล้เคียงของขนาดเท้าน้องอลิสกับรองเท้าในที่เกิดเหตุ ซึ่งในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนทีละคน ซึ่งในส่วนของข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่อง ที่มีคนอุ้มน้องอลิสไปนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะถ้ามีคนอุ้มน้องอลิสไป น้องต้องร้อง และถ้ามีคนอุ้มน้องไปจริงทำไมไม่บอกแต่แรก และตนเชื่อว่าต้องมีคนเสี้ยมให้เด็กพูดออกมาแบบนั้น  และในส่วนของคนที่ชอบปั่นจักรยานในหมู่บ้าน นั้น ปรากฏว่า เป็นเพียงแค่ชายแก่ๆ ที่ตนก็รู้จัก และคงไม่มีแรงทำอะไร ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมากระทำแบบนี้

นายปริญญา มณีวงศ์ พ่อของน้องอลิส กล่าวต่อไปว่า ในส่วนกรณีที่ลูกสาวของตนไปล้างมือและจมน้ำเสียชีวิตแล้วมีคนนำร่างน้องไปทิ้งที่สระน้ำ นั้น ตนเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ แต่ก็เป็นแค่เพียงการสันนิษฐานเท่านั้น เพราะยังไง ตนก็ไม่เชื่อว่าลูกสาวของตนจะสามารถเดินไปได้ไกลขนาดนี้