ที่วิทยาลัยเทคนิคสุพรรณบุรี ศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้สถานการณ์ การแก้กฎหมายพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  โดยมีนายสรชัด สุจิตต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุพรรณบุรีเขต 1 พรรคชาติไทยพัฒนา ประธานพิธีเปิด "เวทีเสวนาฟังเสียงคนสุพรรณบุรี แก้ไข พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทางเลือกหรือทางรอดของสังคมไทย" ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 100 คน 

โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่มีความหลากหลายทางสังคมทุกกลุ่มวัย คนเล็ก คนน้อย ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง เข้ามามีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นสะท้อนปัญหาและผลกระทบในสังคม ประกอบด้วย เครือข่ายชมรมแรงงานนอกระบบจังหวัดสุพรรณบุรี เครือข่ายเยาวชน นักเรียนนักศึกษา เครือข่ายสถานศึกษา จำนวน 6 แห่ง เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ เครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ เครือข่ายกลุ่มผู้นำองค์กรชุมชน เครือข่ายอาสาสมัครต่างๆ และเหยื่อเมาแล้วขับผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง 

ซึ่งมีวิทยากรเสวนาเข้าร่วม "เวทีเสวนาฟังเสียงคนสุพรรณบุรีแก้ไข พรบ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทางเลือกหรือทางรอดของสังคมไทย" ดังนี้ นายไพบูลย์ คำภาพักตร์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างบรรหาร-แจ่มใส จังหวัดสุพรรณบุรี นายเทิดศักดิ์ จารุจารีต จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี นางสาวจิดาภา ทำจะดี ประธานนักเรียนจิตอาสาพัฒนากรรณสูตและเลขานุการสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดสุพรรณบุรี นางกุหลาบ พูนกิจ ประธานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับจังหวัดสุพรรณบุรี 

โดยมีนายภัทรพงษ์ กิตติวิริยะพันธุ์ ประธานศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพิธีกรผู้ดำเนินรายการ มีการจับตาประเด็นการแก้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เสนอข้อความห่วงใยไปถึงรัฐบาล 1.ต้องไม่เอื้อทุนใหญ่ ทุนผูกขาด 2.ต้องไม่เพิ่มคนเมา ไม่เพิ่มผลกระทบ 3.ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม ไม่รวมอำนาจ 4.ต้องหยุดปล่อยผีโฆษณา ลดแลกแจกแถม หยุดให้ขาย 24 ชม. 5.ควรเพิ่มความรับผิดชอบผู้ผลิต ผู้ขาย 

ในส่วนเสียงของภาคประชาชนและเหยื่อเมาแล้วขับจังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีการเรียกร้องและข้อเสนอแนะจำนวน 3 ข้อด้วยกัน 1.เห็นควรให้มีกองทุนฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบและเป็นเหยื่อจากการเมาแล้วขับ 2. ควรจัดให้มีสมัชชา ระดับจังหวัด ระดับภาค ระดับชาติ ของผู้ได้รับผลกระทบจากเมาแล้วขับประจำปี เพื่อได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และข้อเสนอแนะให้กับผู้เกี่ยวข้องที่เป็นหน่วยงานของรัฐและเอกชนเข้ามานำไปทำนโยบาย 3. เห็นควรให้มีการแก้ไขหรือบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้กระทำความผิดและสร้างผลกระทบให้เกิดความเสียหาย โดยจัดให้มีคณะกรรมการชุดหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับข้อ 2 เข้ามาดูแลและเป็นผู้ดำเนินการความเสียหายให้กับเหยื่อ ซึ่งตอนท้ายหนึ่งในเหยื่อเมาแล้วขับยังกล่าวว่า หากตนมีเวทมนต์ จะร่ายมนต์เข้าไปถล่ม เพื่อทำให้สุราหายไป จากประเทศไทยเลยทีเดียว