นายกฯ รับฟังความเห็นภาคปชช. ขุดอุโมงค์ทางลอดอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร
5 ก.ค. 2567, 15:33
วันนี้ ( 5 ก.ค.67 ) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชนในการขุดอุโมงค์ทางลอดบริเวณอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเส้นทางหลักในการเข้า-ออก ตัวเมืองภูเก็ต โดยโครงการได้ดำเนินการในส่วนของการเคลื่อนย้ายเสาไฟฟ้า 2 ข้างทาง เพื่อเตรียมรองรับการดำเนินโครงการในระยะต่อไป
นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้โครงการดำเนินการก่อสร้าง ให้ส่งผลกระทบกับประชาชนและนักท่องเที่ยวน้อยที่สุด รวมทั้งให้การศึกษาเส้นทางเบี่ยงเพื่อรองรับการเดินทางระหว่างการดำเนินโครงการก่อสร้าง พร้อมทั้งวางแนวทางป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาหลังโครงการแล้วเสร็จ เช่น การเกิดภาวะน้ำท่วมขังในอุโมงค์ทางลอด ช่วงที่มีฝนตกในพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลให้การจราจรติดขัดมากยิ่งขึ้น และ โครงการจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ และกระทบต่อภาคเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ต จากนั้น ได้เดินทางไปยังบ้านหัวควน ตำบลกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่ม และในเวลา 16.30 น.เดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต เพื่อเดินกลับกรุงเทพมหานคร
สำหรับโครงการก่อสร้างทางลอดบริเวณสี่แยกท่าเรือ จุดตัดทางหลวงหมายเลข 402 กับทางหลวงหมายเลข 4027 (แยกท่าเรือ) เพื่อปรับปรุงและแก้ไขปัญหาการจราจร และปรับปรุงภูมิทัศน์สี่แยกท่าเรือเป็นโครงการที่กรมทางหลวงเข้ามาดำเนินการ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษาออกแบบรายละเอียดโครงการ และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIAโดยโครงการนี้ใช้งบประมาณค่าก่อสร้างเบื้องต้น 2,365 ล้านบาท เนื่องจากรูปแบบการปรับปรุงบริเวณพื้นที่อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร โดยรูปแบบการเข้าออก เพื่อสักการะองค์อนุสาวรีย์ จะเป็นรูปแบบอุโมงค์ทางเดินลอด จึงมีความจำเป็นต้องทำการเวนคืนในโครงการ เพื่อใช้สำหรับก่อสร้างทางขึ้นลงรวม 1,574 ตร.ม. แบ่งเป็น พื้นที่หัวมุมห้างโรบินสัน 967 ตร.ม. และพื้นที่หัวมุมห้างขายปลีกเครื่องประดับ 607 ตร.ม.รูปแบบโครงการเป็นทางลอดขนาด 3 ช่องจราจรลอดใต้อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ในแนวทางหลวงหมายเลข 402 ทิศทางออกนอกเมืองจะมี 2 ช่องจราจร ความกว้างช่องจราจรละ 3.25 เมตร และทิศทางเข้าเมืองจะมี 1 ช่องจราจรความกว้าง 4.50 เมตร ส่วนด้านบนจะมีทางขนานฝั่งละ 2 ช่องจราจร ความกว้างช่องจราจรละ 3.00 เมตร มีทางเท้ากว้าง 2.1-2.7 เมตร และด้านบนทางลอดคงรูปแบบวงเวียนขนาด 2 ช่องจราจร วนรอบอนุสาวรีย์ พร้อมออกแบบระบบสัญญาณไฟจราจรบริเวณทางแยกเพื่อความปลอดภัยโดยการออกแบบยกระดับลานอนุสาวรีย์ด้านบนให้สูงขึ้นจากระดับถนนประมาณ 0.90 ม.
พร้อมกับยกฐานองค์อนุสาวรีย์ขึ้น เพื่อให้มีความสง่างาม สวยงาม และมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ทาง และออกแบบให้มีทางเดินลอดเพื่อบริการประชาชนที่จะเดินทางมาสักการะองค์อนุสาวรีย์ฯ และสามารถไปอีกฝั่งหนึ่งได้อย่างปลอดภัย โดยมีจุดขึ้น-ลงทางลอดบริเวณหน้าห้างขายปลีกเครื่องประดับ เซาท์อีสต์ เอเชีย คาเธ่ย์ เจมส์ ภูเก็ต และที่ห้างโรบินสัน ส่วนบริเวณอาคารจุดขึ้นลงจะมีบันได ลิฟท์ สำหรับบริการประชาชนทุกวัย และจัดพื้นที่ลานสักการะให้เปิดโล่งบางส่วน และอยู่ระดับเดียวกับหลังคาทางลอด เพื่อปรับภูมิทัศน์ด้านบนให้ดูโล่ง ไม่ดูวุ่นวาย สร้างทัศนวิสัยที่ดีแก่ผู้ใช้เส้นทาง และส่งเสริมให้องค์อนุสาวรีย์ฯ มีความสง่างามส่วนพื้นที่ภายในบริเวณอนุสาวรีย์ ประกอบด้วย 1.โถงอเนกประสงค์ (จัดแสดงเรื่องราวเชิงประวัติศาสตร์ได้) 2.ลานสักการะองค์อนุสาวรีย์ฯ (กดลงที่ระดับหลังคาทางลอด) 3.ทางเดินลอด 4.ห้องเครื่องงานระบบไฟฟ้า-เครื่องกล และ 5.ทางออก เช่น บันไดหรือประตูหนีไฟ เมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจราจรและการขนส่งให้สามารถเดินทางสะดวก รวดเร็ว.