เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ผปค.ล่ารายชื่อย้ายด่วนผอ.รร.หลังเด็กอนุบาลถูกล่วงละเมิดทางเพศแต่ถูกปิดเงียบ 


11 ก.ค. 2567, 12:15



ผปค.ล่ารายชื่อย้ายด่วนผอ.รร.หลังเด็กอนุบาลถูกล่วงละเมิดทางเพศแต่ถูกปิดเงียบ 





       จากกรณี ได้มีตัวแทนผู้ปกครองกว่า 20 คน เข้าร้องเรียนต่อ นายศักดิ์สิทธิ์ แร่ทอง ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1 โดยตัวแทนผู้ปกครองได้ยื่นหนังสือข้อร้องเรียนจำนวน 12 ข้อ เกี่ยวกับการบริหารงานของผู้บริหารโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด ที่ไม่โปร่งใส มีการลิดรอนสิทธิของนักเรียน ส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ทางวิชาการ การพัฒนาศักยภาพทางการศึกษาของนักเรียน  โดยเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวแทนผู้ปกครองทั้งหมดเข้าไปพบพูดคุยถึงปัญหาและยื่นหนังสือร้องเรียนดังกล่าวภายในห้องประชุมชั้น 3 

         ซึ่งข้อร้องเรียนที่ 12 เป็นที่สนใจของประชาชนเรื่องที่เด็กถูกล่วงละเมิดกระทำชำเราภายในโรงเรียน หลังเกิดเหตุร้ายแรงผ่านมา 1 สัปดาห์แต่ถูกทางโรงเรียนปิดข่าว ทำให้ผู้ปกครองวิตกกังวลเป็นอย่างมาก อีกทั้งไม่ได้รายงานให้นายศักดิ์สิทธิ์ แร่ทอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาชุมพร เขต 1 รับทราบซึ่งมารู้ภายหลังจากมีผู้ปกครองนำเรื่องร้องเรียนทำให้รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะเป็นเรื่องร้ายแรงและสะเทือนสังคมถึงมาตรการความปลอดภัยในโรงเรียนตามที่เป็นข่าวแล้วนั้น

        ความคืบหน้าเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 10 ก.ค.ตัวแทนผู้ปกครองประมาณ 10 คน ได้เดินทางเข้าพบนายวิสาห์  พูลศิริรัตน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นำหนังสือยื่นร้องเรียนจากกรณีดังกล่าวที่ห้องประชุมเกาะลังกาจิว ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดชุมพร  แต่เนื่องจากติดราชการจึงมอบหมายให้นายธนนท์  พรรพีภาส  รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรรับเรื่องแทน โดยตัวแทนผู้ปกครองใช้เวลาในการชี้แจงถึงการบริหารงานภายในโรงเรียนอนุบาลดังกล่าวจนถึงเรื่องเกิดเหตุรุนแรงขึ้นต่อเด็ก ซึ่งผู้ปกครองมองว่าเด็กนักเรียนกว่า 1 พันคนไม่มีความปลอดภัยอีกต่อไป จึงร้องเรียนมายังผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อให้เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วนด้วย

        ตัวแทนผู้ปกครองได้เปิดเผยต่อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรอีกว่า ได้รับข้อมูลจากผู้ปกครองโรงเรียนอนุบาลอีกแห่งหนึ่งในเขตเมืองชุมพรว่าไม่มีความปลอดภัยเช่นเดียวกัน ซึ่งเด็กมีอายุประมาณตั้งแต่ 4 ขวบครึ่ง ถึง6 ขวบครึ่ง การช่วยเหลือตัวเองก็ไม่ได้เต็มที่ ในขณะที่โรงเรียนเป็นระบบเปิดไม่มีรั้วรอบขอบชิดอยู่ใกล้ถนนใหญ่ ด้านหลังติดภูเขามีพุ่มไม้เยอะ ส่วนห้องน้ำไม่ได้อยู่ในห้องเรียน เวลามาทำธุระส่วนตัวก็มาคนเดียวไม่มีคนดูแลเด็ก ทำให้ผู้ปกครองมองว่าขนาดเด็กโตยังเกิดปัญหา เด็กเล็กช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จะทำอย่างไร จึงเรียกร้องให้ผู้บริหารดำเนินการหากทำไม่ได้ควรจะพิจารณาตัวเองย้ายออก หรือลาออก เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสามารถเข้ามาดูแลได้ อย่าให้ผู้ปกครองอยู่ในสภาวะที่หวาดหวั่น

          ซึ่งหลังจากที่เป็นข่าวต่อสาธารณะแล้วทางโรงเรียนได้แจ้งให้ผู้ปกครองรับเด็กนักเรียนช้าขึ้นจากเดิมรับในเวลา 15.30 น. เปลี่ยนเป็น 15.45 น. ส่วนเด็กเรียนพิเศษเดิม 16.30 น. เลื่อนเป็น 16.45 น. มองว่าวิธีนี้ไม่ใช้วิธีแก้ปัญหาให้กับนักเรียนและผู้ปกครอง ทำให้ยืดเวลามืดค่ำไปอีกและน่ากลัวกว่าเดิม ผู้ปกครองมองว่าควรแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มเวรยามเข้ามาตรวจสอบแทนที่ให้คุณครูผู้หญิงไปประจำจุดนั้นเป็นการผลักภาระหรือล่อเป้า ขอเสนอให้ทางโรงเรียนทำบัตรผู้ปกครองเข้าออกรับนักเรียนฯโดยระบุชื่อผู้ปกครองให้ชัดเจนเป็นต้น”

     ด้านนายธนนท์ฯ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร  กล่าวหลังจากได้รับฟังปัญหาดังกล่าวว่า หลังจากนี้จะได้นำหนังสือให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยทำงานพร้อมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1  ดูว่าตรงไหนไม่รัดกุมพอก็ต้องแก้ไข ในส่วนของคดีต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ทราบว่าตำรวจรับเป็นคดีเรียบร้อยแล้วซึ่งจะเร่งรัดกันต่อไป 

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันกลุ่มผู้ปกครองโรงเรียนอนุบาลดังกล่าวได้ทำการล่ารายชื่อ เพื่อยื่นให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพิจารณาผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลฯย้ายด่วนออกไปก่อนตามความเห็นชอบ
 









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.