"วันนอร์" แจงปมตรวจสอบเลือกตั้งให้เป็นหน้าที่ กกต. -จ่อนัดวิป 3 ฝ่ายวางกรอบถกแก้รธน.
23 ก.ย. 2567, 15:52
วันนี้ ( 23 ก.ย.67 ) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ กรณีมีผู้ยื่นร้องขอให้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เป็นโมฆะ เนื่องจากมองว่าเป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม จะกระทบการทำงานของ สส.ที่ทำงานผ่านมาแล้ว 1 ปี หรือจะทำให้งานการเมืองหยุดชะงักลงหรือไม่ ว่าการเลือกตั้งที่เสร็จสิ้นแล้วสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะประกาศผลหลังจากผ่านการเลือกตั้ง 1 เดือนไปแล้ว และตรวจสอบคุณสมบัติต่าง ๆ เมื่อครบ 1 ปี มองว่าไม่มีผลแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่มีผู้ร้องเรียนนั้นมองว่าเป็นไปตามกฎหมายเลือกตั้ง เป็นเรื่องธรรมดาและส่วนตัวก็ไม่แน่ใจว่าร้องเรียนการเลือกตั้งทั้งหมดหรือรายบุคคล หรือการเลือกตั้งซ่อมใหม่ ดังนั้นกรณีดังกล่าวต้องให้ กกต.เป็นฝ่ายตรวจสอบ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังตอบข้อถามกรณีจะมีการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ รายมาตรา เกี่ยวกับ จริยธรรม สส.และรัฐมนตรี ขณะนี้ทราบว่ามีพรรคการเมืองบางพรรคได้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรามาที่สภาผู้แทนราษฎรแล้ว ซึ่งสภาจะดำเนินการตามขั้นตอนในการตรวจสอบ และจะบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา และจะนัดประชุมในโอกาสต่อไปตามมติของวิป 3 ฝ่าย ทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณากำหนดวันและจัดสรรเวลาในการอภิปรายของแต่ละฝ่าย ส่วนข้อถามกรณีการจัดทำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย (พท.) จะกลายเป็นชนวนความขัดแย้งครั้งใหม่ของการทำกฎหมายนิรโทษกรรมหรือไม่ ระบุว่าตนเองในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่สามารถเสนอความเห็นว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร เมื่อมีการเสนอกฎหมายเข้ามาสู่สภาผู้แทนราษฎร ต้องเป็นเรื่องของที่ประชุมที่จะร่วมกันพิจารณาในขั้นตอนต่อไป แต่ยืนยันว่าทุกอย่างต้องมีความสมดุลซึ่งกันและกัน โดยต้องสมดุลในด้านประโยชน์ของประชาชน และสมดุลเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย เพราะหากไม่มีความสมดุลการเมืองอาจเกิดความแปรปรวนได้