"ในหลวง" ทรงรับผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุ "ไฟไหม้รถบัส" เป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์
2 ต.ค. 2567, 08:14
วันที่ 1 ตุลาคม 2567 นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษาของ ร.ร.วัดเขาพระยาสังฆาราม บริเวณหน้าเซียร์รังสิต จ.ปทุมธานี ว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้สั่งการให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษานักเรียนทันที โดยมีตนเป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ เพื่อติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยและญาติอย่างเต็มที่
โดยข้อมูลล่าสุด รถคันเกิดเหตุมีครู 6 ราย ออกมาได้ 3 ราย และนักเรียน 38 ราย ออกมาได้ 16 ราย รวมในรถมีทั้งหมด 44 ราย ออกมาได้ 19 ราย มีผู้ป่วย 5 ราย เบื้องต้นนำส่งโรงพยาบาลแพทย์รังสิต ในจำนวนนี้ อาการหนักสีแดง 2 ราย เป็นเด็กหญิงอายุ 7 ปี และ 9 ปี ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต, เด็กหญิงอายุ 14 ปี อาการสีเหลือง ส่งต่อสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ส่วนอีก 2 ราย เป็นหญิงอายุ 44 ปี และ 42 ปี ให้กลับบ้านได้ อย่างไรก็ตาม กรมการแพทย์ได้ให้โรงพยาบาลในสังกัดสำรองเตียงใน ICU และหน่วยดูแลบาดแผลไฟไหม้ไว้รองรับผู้ป่วยด้วยแล้ว โดยผู้ป่วยทุกราย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์
นพ.วีรวุฒิกล่าวต่อว่า ด้านการดูแลจิตใจ กรมสุขภาพได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านสุขภาพจิต เตรียมพร้อมดูแลเยียวยาจิตใจผู้ประสบเหตุและญาติ 4 กลุ่ม ประกอบด้วย
1.กลุ่มนักเรียนบาดเจ็บสาหัส 3 ราย เตรียมทีมจิตแพทย์ 1 คน นักจิตวิทยา 2 คน
2.กลุ่มนักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์ของรถคันที่สอง 16 ราย เตรียมทีม MCATT 1 ทีม (จิตแพทย์ 2 คน นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต 10 คน)
3.กลุ่มนักเรียนที่เหลือในขบวนรถที่ประสบเหตุ เตรียมทีม MCATT 1 ทีม (จิตแพทย์ 2 คน นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต 10 คน)
และ 4.กลุ่มพ่อแม่ ผู้ปกครองของเด็กที่เสียชีวิต ที่โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี เตรียมทีม MCATT 1 ทีม (จิตแพทย์ 2 คน นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต 10 คน)
ส่วนจำนวนผู้สูญหายยังต้องรอการยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในวันพรุ่งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะส่งทีมนิติเวช 10 คน ร่วมพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตกับสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ทั้งนี้ ขอความร่วมมือสื่อมวลชนและประชาชนทุกท่านไม่ส่งต่อภาพเหตุการณ์และภาพผู้เสียชีวิต เพื่อไม่เป็นการตอกย้ำความเสียใจของครอบครัว