หนุ่มซิ่งปิกอัพชน จยย. รองสวป. คาแยกบางแพ ดับ 3 เซ่นเพิ่มอีก 1 ศพ หน่วยงานเตรียมทำสัญญาณไฟจราจร
5 พ.ย. 2562, 16:57
จากกรณีเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดกลับบนถนนสายแยกบางแพ – ดำเนินสะดวก หมู่ 7 ต.วังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี เมื่อช่วงเย็นในที่ 4 พ.ย. 62 นายเอกณัฐ เพ็งสว่าง อายุ 30 ปี ขับรถยนต์ปิกอัพ ชนรถจักรยานยนต์ 2 คัน ทำให้ ร.ต.ท.อำนาจ มลิวงค์ อายุ 58 ปี รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.บางแพ นางสุภาศิริ มลิวงค์ อายุ 56 ปี ภรรยา ร.ต.ท.อำนาจ เสียชีวิตคาที่ และ ด.ช.กาโม่ วัย 7 ขวบ หลานชาย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ยังมี นายไพโรจน์ เกตุหอม อายุ 51 ปี และ ด.ญ.ขวัญข้าว วัย 7 ขวบ หลานสาว นายไพโรจน์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งหลังเกิดเหตุชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงที่ไปดูเหตุที่เกิดขึ้นต่างบอกว่าอยากให้ ทางกลับรถแห่งนี้ได้มีการติดตั้งสัญญาณไฟจราจร เพราะนอกจากจะเป็นทางกลับรถแล้ว ริมถนนทั้งสองฝั่ง ยังเป็นทางแยกถนนเข้าในหมู่บ้านที่ผ่านมามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้งนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 5 พ.ย.62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ร.ต.อ.สุทธิพงษ์ สุวรรณโณ รองสว.(สอบสวน) สภ.บางแพ จ.ราชบุรี เจ้าของคดี เปิดเผยว่า จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 4 รายแล้ว โดย ร.ต.ท.อำนาจ มลิวงค์ พร้อมภรรยาคือ นางสุภาศิริ มลิวงค์ เสียชีวิตคาที่ ด.ช.กาโม่ เสียชีวิตที่โรงพยาบาล และช่วงกลางดึกคืนวันที่ 4 พ.ย.62 นายไพโรจน์ เกตุหอม ผู้บาดเจ็บที่ส่งตัวไปรักษาต่อโรงพยาบาลราชบุรี ได้เสียชีวิตอีกราย ส่วน ด.ญ.ขวัญข้าว วัย 7 ขวบ ก็ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลราชบุรี อาการยังสาหัส สำหรับด้านคดีเบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหา นายเอกณัฐ เพ็งสว่าง คนขับรถยนต์ปิกอัพคู่กรณี "ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและบาดเจ็บ" นอกจากนี้ยังนำตัว นายเอกณัฐ ไปเจาะเลือดที่โรงพยาบาลดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี เพื่อตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งจะรู้ผลอีก 2 สัปดาห์ ตอนนี้ได้ปล่อยตัว นายเอกณัฐ ชั่วคราว และจะดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ส่วนกรณีที่ชาวบ้านต้องการให้มีสัญญาณไฟจราจรบริเวณทางกลับรถที่เป็นทางแยกด้วย เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายรายนั้น หลังเกิดเหตุได้มีการแชร์คลิปวิดีโอขณะเกิดเหตุ และแชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้น จนมีการแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ทำให้วันเดียวกันนี้ (5 พ.ย.62) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุม อ.บางแพ นายอรรถพันธ์ สงวนเสริมศรี นอภ.บางแพ พร้อมด้วย ดร.กิตติ ทรัพย์ประสงค์ ผอ.แขวงทางหลวงสมุทรสงคราม ซึ่งรับผิดชอบดูแลถนนสายแยกบางแพ ไปจนถึง จ.สมุทรสงคราม, ผู้แทน สาธารณสุข จ.ราชบุรี ผู้แทน ปภ.ราชบุรี, ผู้แทน รพ.ราชบุรี, ผู้แทน สาธารณสุข อ.บางแพ, ผู้แทน รพ.บางแพ และปลัดอำเภอ ฝ่ายความมั่นคง อ.บางแพ ได้ร่วมประชุมเพื่อแก้ไขปัญหา พร้อมลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุ
โดย นายอรรถพันธุ์ สงวนเสริมศรี นอภ.บางแพ กล่าวว่า หลังเกิดอุบัติเหตุ ทาง อ.บางแพ ได้ประสานไปยังจ.ราชบุรี แขวงทางหลวงสมุทรสงคราม และส่วนงานราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมและลงพื้นที่ที่เกิดเหตุ เพื่อวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเบื้องต้นสรุปทางแขวงทางหลวงสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบถนนเส้นดังกล่าว จะดำเนินการปรับรูปแบบ จะมีการตีเส้นจราจรรัมเบิ้ลสตริป เพื่อเป็นการลดความเร็ว และจะติดตั้งป้ายสัญญาณลดความเร็วในบริเวณดังกล่าว อีกทั้งจะนำวิศวกรเข้ามาสำรวจพื้นที่บริเวณจุดดังกล่าว เพื่อติดตั้งสัญญาณไฟจราจร เพื่อเป็นการลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุ
ด้านนางสกุลสิน สินทวี อายุ 67 อยู่บ้านเลขที่ 117/1 หมู่ 8 ต.วังเย็น อ.บางแพ มีบ้านอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ บอกว่า ทุกวันนี้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ภายในบริเวณดังกล่าวต้องอาศัยอยู่กันอย่างหวาดระแวง เพราะจุดบริเวณดังกล่าวเป็นจุดทางแยกเข้าหมู่บ้าน และถนนใหญ่เป็นลักษณะ 4 แยก มีชาวบ้านต้องข้ามถนนเส้นนี้เป็นจำนวนมากเพราะอยู่ใกล้โรงเรียนบางแพ และโรงพยาบาลบางแพ เฉพาะแค่ 2 ปีมานี้ เกิดอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิตคาที่แล้ว 8 ราย และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีกหลายราย ชาวบ้านเคยรวมตัวกันไปขอให้ทางภาครัฐติดตั้งไฟเขียวไฟแดงให้ แต่ก็เงียบไป ซึ่งชาวบ้านไม่ได้ต้องการอะไรเลยต้องการให้ภาครัฐทำอะไรก็ได้ให้ชาวบ้านปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทุกวันนี้ตนเองก็ยังกลัวเลยว่ารถจะพุ่งเข้ามาในบ้านของตนเอง เพราะเคยเกิดเหตุการณ์มีรถพุ่งชนเข้ามาชนข้าวของหน้าบ้านเสียหายหลายครั้งแล้ว
ส่วนนางพัชรา แก้วเจริญ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 หมู่ 8 ต.วังเย็น มีบ้านอยู่บริเวณดังกล่าวเช่นเดียวกัน กล่าวว่าถนนสี่แยกนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งมาก บางคนไม่รู้ว่ามีแยกและวิ่งมาด้วยความเร็วมาก ทำให้เกิดอุบัติเหตุบริเวณหน้าบ้านตนเองหลายครั้ง ทุกครั้งจะมีคนเสียชีวิต ตนเองอยากจะให้มีการติดตั้งไฟแดง บริเวณแยก มันจะได้สะดวกแก่ชาวบ้านและเพื่อลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ส่วนที่จะมีการปิดจุดกลับรถนั้น ตนเองไม่เห็นด้วย ควรติดตั้งไฟแดงดีที่สุด เพราะชาวบ้านจะได้ไม่ต้องไปกลับรถไกล อีกทั้งถ้ามีการปิดจุดกลับรถดังกล่าวจริง ชาวบ้านก็ต้องย้อนศรไปรับส่งนักเรียน และไปโรงพยาบาล ก็จะทำให้เกิดอุบัติเหตุมากขึ้นไปอีก