ผวจ.ราชบุรี แถลงยกเลิกคำสั่งปิดโรงเรียน ลั่น! รับผิดแต่เพียงผู้เดียว ไม่เกี่ยวนายกฯ
9 พ.ย. 2562, 16:36
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 พ.ย. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายวิสาห์ พูนศิริรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมตรวจสถานที่บริเวณโรงยิมเนเซี่ยม เขตเทศบาลเมือง เพื่อดูความเรียบร้อยเตรียมการต้อนรับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีที่จะเดินทางมาตรวจราชการที่ จ.ราชบุรี ก่อนการประชุมครม.สัญจรที่ จ.กาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 11 พฤศจิกายน นี้
ซึ่งขณะนี้ได้มีการจัดเตรียมสถานที่จัดภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบ และภายในโรงยิมเนเซี่ยม ได้จัดตกแต่งมีโต๊ะเก้าอี้ไว้พร้อมแล้ว โดยภายในสามารถรองรับคณะ หัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆได้ประมาณ 3,300 คน ส่วนด้านนอกรองรับได้อีกกว่า 1,000 คน ขณะนี้ได้มีการขึ้นป้ายข้อความจังหวัดราชบุรี ยินดีต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะในโอกาสตรวจราชการในพื้นที่ จ.ราชบุรี ที่ติดไว้ที่บริเวณสะพานรถไฟทางเข้าโรงยิมเนเซี่ยม มีการจัดเตรียมเวที ที่ประดับตกแต่งด้วยผ้า ด้านหน้าเวทีประดับโอ่งมังกร สัญลักษณ์เมืองราชบุรี
นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า สำหรับด้านการจราจรบริเวณรอบโรงยิมเนเซียมนั้นได้มีปัญหามานานเพราะมีโรงเรียนขนาดใหญ่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองหลายแห่งอยู่ใกล้เคียงกันรวมทั้งมีนักเรียนอยู่จำนวนมาก เคยส่งรองผู้ว่าราชบุรีเข้าร่วมประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และได้มติการจัดระเบียบขึ้นมา มีการขอกำลังจากจังหวัดทหารบกราชบุรีมาคอยช่วยเหลือจัดกำลังสารวัตรทหารคอยอำนวยความสะดวกในช่วงเช้าด้านการจราจรเสริมไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ส่วนการเตรียมการต้อนรับนายกรัฐมนตรีตามแผนงานมีจุดแรก คือ จุดที่โรงยิมเนเซียมจะมีผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตัวแทนกลุ่มพลังมวลชนต่างๆจะมารับนโยบาย รับทราบยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาการบริหารราชการของการพัฒนาประเทศจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะอยู่ราชบุรีถึง 15.00น.ก่อนจะเดินทางไป จ.กาญจนบุรี และรุ่งเช้าการประชุม ครม.สัญจร ช่วงที่ผ่านมามีรัฐมนตรีเดินทางมาราชบุรีเพื่อตรวจติดตามผลการบริหารราชการแผ่นดินและรับข้อเสนอแนะจากราชการจากภาคประชาชน เพื่อนำไปเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ซึ่งทางจังหวัดก็มีโครงการได้รับข้อเสนอ จากประชาชนหลายส่วนที่จะไปสู่การนำเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณา และจะลงมติที่จะขับเคลื่อนเป็นโครงการใหญ่ๆ
สำหรับเช้าวันที่ 11 พฤศจิกายน นายกรัฐมนตรีจะมาโดยเฮลิคอปเตอร์มาลงจอดที่สนามบินค่ายบุรฉัตรเพื่อเดินทางต่อมาที่โรงยิมเนเซียม แต่ก่อนจะมาที่โรงยิมเนเซียมนั้น นายกรัฐมนตรีจะบินวนตรวจบริเวณสามแยกวังมะนาว ซึ่งเรามีการผลักดันเสนอให้มีการตัดจากสามแยกวังมะนาวให้เปลี่ยนเป็นสี่แยกวังมะนาวไปเชื่อมกับถนนฝั่งสายตะวันตกซึ่งจะอยู่ในโครงข่ายของระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันตก จะมีการนำเสนอให้กระทรวงคมนาคมศึกษาออกแบบความเป็นไปได้ในการพัฒนาเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันตกและยังมีอีกหลายโครงการที่ 3 จังหวัดเตรียมการเสนอ ครม.โดยผู้แทนจากภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาพื้นที่มาก
สาเหตุที่จัดประชุมที่โรงยิมเนเซียมเนื่องจากราชบุรีไม่มีหอประชุมใหญ่ ๆ ส่วนที่อื่นก็ไม่เพียงพอต่อการรองรับบรรจุผู้นำภาคประชาชนและภาคราชการต่างๆที่จะมารับนโยบายจากนายกรัฐมนตรีได้ จึงปรึกษาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะลดผลกระทบจากการจราจรอย่างไรได้บ้าง ซึ่งแต่เดิมก็จะมีปัญหาการจราจรอยู่แล้วในช่วงเช้าที่จะมีนักเรียนเดินทางมาโรงเรียน ก็เป็นช่วงจังหวะเดียวที่มวลชนจะเดินทางมารับนโนบายนายกรัฐมนตรีด้วย โดยฝั่งตรงข้ามโรงยิมเนเซียมเป็นที่ตั้งวิทยาลัยสารพัดช่างมีนักเรียนประมาณ 600 คน ฝั่งซ้ายมือเป็นที่ตั้งโรงเรียนสุริยวงศ์มีเด็กนักเรียนระดับชั้นอนุบาลถึง มัธยมศึกษาปีที่ 6 ประมาณ 500 คน ฝั่งขวารั้วติดกับโรงยิมเนเซียมจะมีประตูต่อเนื่องกัน เป็นที่ตั้งโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จะมีผู้ปกครองขับรถพาลูกหลานไปส่งโรงเรียน จะมีนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ประมาณ3,000-4,000 และจะมีมวลชนในพื้นที่ รวมทั้งสื่อมวลชนต่างๆ ข้าราชการต่างๆ ที่จะเดินทางมาร่วมงานไม่ต่ำกว่า 5,000 คน จะมีคนประมาณ 10,000 คน ที่จะมาประดังในห้วงเวลาเดียวกันยังไม่นับประชาชนที่จะใช้เส้นทางบริเวณถนนด้านหน้าโรงยิมเนเซียมอยู่แล้วตามปกติ ลองคิดดูว่าการจราจรจะเป็นอย่างไร แม้ทุกฝ่ายจะได้เตรียมการล่วงหน้า ทั้งเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครมาอำนวยการจราจร จัดเหลื่อมเวลาการเดินทางเข้าสู่จุดจากประชาชนทั้ง 10 อำเภอ ซึ่งจะไม่ได้มาพร้อมกันในทีเดียว
ทางจังหวัดได้มีหนังสือประสานไปยังสถานศึกษาทั้ง 3 แห่งที่อยู่ใกล้ติดกับโรงยิมเนเซียมได้แก่ โรงเรียนเบญจมราชูทิศ วิทยาสารพัดช่าง และโรงเรียนสุริยวงศ์ ขอให้รับทราบสถานการณ์วันดังกล่าวที่จะส่งผลกับการมาเรียนของนักเรียนในพื้นที่ แต่หลังจากที่มีการโพสต์ลงสื่อสังคมออนไลน์แล้ว ทางสื่อส่วนกลางได้จับไปขยายผล ซึ่งไปกระทบกระเทือนกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเลย เพราะช่วงเวลาที่มานั้นได้นั่งเฮลิคอปเตอร์มาจอดที่ค่ายบูรฉัตร โดยเมื่อเย็นวานได้เชิญผู้อำนวยการโรงเรียนทั้ง 3 แห่ง ร่วมกับหน่วยทหาร ตำรวจ รองผู้ว่าราชการจังหวัด มาประเมินสถานการณ์ร่วมกัน หลังเกิดกระแสออกมาแบบนี้ที่ไม่เป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรี มองเจตนาดีไปเป็นในทางลบตรงกันข้ามจะทำอย่างไร และเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดและสื่อสารไปในทางที่เกิดความเสียหายถึงบุคคลที่ 3 ทาง ร.ร.เบญจมราชูทิศ ร.ร.สุริยวงศ์ได้ออกประกาศยกเลิกการปิดโรงเรียน ตนชี้แจงรับผิดแต่เพียงผู้เดียวไม่เกี่ยวนายกสั่งปิดโรงเรียน และจะเปิดเรียนตามปกติ แต่ถ้าเกิดนักเรียนอาจจะมาช้าเกิดจากปัญหารถติด ขอให้ผ่อนผันไม่ถือว่ามาเรียนสาย ส่วนวิทยาลัยสารพัดช่างนั้นมีการเรียนการสอนปกติ เพราะเป็นเด็กโต จึงอยากชี้แจงให้ทราบว่าทั้ง 3 โรงเรียน ยังคงเปิดเรียนตามปกติ