จากกรณีการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกระเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 1 ช่วงมาบกระเบา-คลองขนานจิตร ก่อสร้างโดยบริษัท อิตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)  มีปัญหากรณี การก่อสร้างสะพานลอยคนข้ามและมอเตอร์ไซค์ข้ามทางรถไฟ ช่วง กม.163+300 หน้าหมู่บ้านคุ้มป่าเสียด หมู่ที่ 5 ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา การรถไฟแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมโครงการก่อสร้างเสนอปรับเปลี่ยนรูปแบบการก่อสร้างมาเป็น Box Underpass หรืออุโมงค์ ขนาด 300x2.50 เมตร ที่มีความยาว 22 เมตร อ้างว่า พื้นที่ก่อสร้าง เป็นแอ่งลึก ต้องใช้งบประมาณมาก แต่ถ้าสร้างอุโมงค์ จะใช้งบประมาณน้อยกว่า แต่ชาวบ้านต้องการให้สร้างสะพานข้ามทางรถไฟเพราะถ้าสร้างเป็นอุโมงค์ลอด กลัวว่าไม่มีความปลอดภัยจากพวกคนร้ายกับพวกผู้หญิงที่เดินทางกลับจากทำงานในช่วงกลางคืนดึกๆ

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 62 ที่ผ่านมา นายสุเมธ พลอยงาม กำนัน ต.กลางดง ได้รับการประสานจากการรถไฟแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ ผู้ควบคุมโครงการก่อสร้างฯ ให้เรียกชาวบ้านประชุมชาวบ้านเพื่อฟังความคิดเห็นทำประชาพิจารณ์ โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องการให้สร้างสะพานลอยคนข้าม และจักรยานยนต์ข้ามทางรถไฟ และต้องการให้มีการยกมือโหวต ว่าประชาชนต้องการแบบไหน เพราะเกรงว่าลูกหลานกลับจากทำงานในช่วงกลางคืนจะไม่มีความปลอดภัยเพราะจุดนี้เปลี่ยว โดยเฉพาะชาวบ้านส่วนใหญ่ในหมู่บ้านมีอาชีพรับจ้างทำงานโรงงานเป็นกะ เข้าและออกงานช่วงกลางคืน และเป็นทางเชื่อมหมู่บ้านซับน้ำเย็น ต.ปากช่อง มีประชาชนสัญจรไป-มาจำนวนมาก แต่เจ้าหน้าที่ของการรถไฟและเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมโครงการก่อสร้างฯแจ้งว่า ประชาชน มีความขัดแย้ง แจ้งให้ นายสุเมธ กำนันตำบลกลางดงปิดประชุม ต่อมาชาวบ้านได้ร่วมกันล่ารายชื่อจำนวนกว่า 100 คน ส่งไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา, รมต.คมนาคม และ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อเรียกร้องให้ก่อสร้างสะพานลอยคนข้ามและรถจักรยานยนต์ข้ามทางรถไฟ แต่ยังไม่รับได้คำตอบหรือมีเจ้าหน้าที่มาพูดคุยสอบถามชาวบ้าน

ล่าสุดเมื่อค่ำวันที่ 15 พฤศจิกายน นายวรัญญู วราเลิศ ปลัดอำเภอปากช่อง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม อ.ปากช่อง ได้ออกหนังสือด่วนที่สุด ที่ นม.1218/4116 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน ถึงผู้เกี่ยวข้องให้เข้าประชุม พร้อมมาเป็นประธานในที่ประชุมบริเวณเนินดินข้างรางรถไฟ ที่ไม่มีแสงสว่าง ต้องต่อสายไฟเพื่อติดตั้งหลอดนีออน เพื่อให้มีแสงสว่าง ทั้งที่ศาลาประชาคมหมู่บ้านก็มีอยู่ห่างกัน 50-60 เมตรเท่านั้น และมีเจ้าหน้าที่ควบคุมโครงการ วิศวกร และที่ปรึกษาโครงการ มาร่วมประชุม พื้นที่ริมทางรถไฟโดยอ้างว่าเพื่อจะได้ดูจุดที่จะก่อสร้างอุโมงค์ ได้ชัดเจน ทั้งที่บริเวณนั้นมืดสนิทมองรอบบริเวณไม่เห็นอะไร การประชุมได้ดำเนินไปนานกว่า 1 ชั่วโมง มีชาวบ้านจำนวนมากต่อว่า เก้าอี้ก็ไม่พอให้ชาวบ้านที่มาประชุมนั่ง ต้องยืนประชุมท่ามกลางความมืด และเสียงเครื่องขยายก็ฟังไม่รู้เรื่อง ผลการประชุมให้ชาวบ้านโหวตยกมือมีชาวบ้านต้องการให้สร้างอุโมงค์ลอดจำนวน 25 คน และต้องการสะพานลอยคนข้าม และจักรยานยนต์ข้ามทางรถไฟจำนวน 88 คน

ด้าน นายวิโรจน์ ศรีสังข์ นายกเทศมนตรีตำบลสีมามงคล ได้กล่าวต่อหน้าที่ประชุมว่า เป็นเรื่องที่แปลกมากถึงการประชุมในวันนี้ เพราะได้รับโทรศัพท์จากนายวรัญญู ปลัดอำเภอปากช่อง ว่า นายสุเมธ กำนัน ต.กลางดง ทำหนังสือมาขอให้อำเภอ แจ้งไปยัง ผอ.โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เรียกชาวบ้านและผู้เกี่ยวข้องให้เข้าร่วมประชุม ตนก็ยังบอกว่า ทำไมรีบร้อนขนาดนั้น อำเภอรับหนังสือวันที่ 12 พฤศจิกายน กว่าจะทำหนังสือกว่า นายอำเภอ จะลงนาม จะต้องส่งหนังสือถึง เจ้าหน้าที่โครงการฯ อีก จะเรียกประชุมในวันที่ 15 พฤศจิกายนจะทันหรือ จนช่วงเย็นวันที่ 13 พฤศจิกายน เห็นหนังสือเรียกประชุม ผ่านทาง Line ว่าเรียกประชุมที่ ศาลาประชาคมบ้านคุ้มมอหลักหิน จึงได้แจ้งไปว่า คุ้มมอหลักหินนี้ไม่มีศาลาประชาคม อีกทั้งอยู่ห่างจากคุ้มบ้านป่าเสียด ที่เป็นจุดที่ก่อสร้างสะพานคนข้ามทางรถไฟ 3-4 กม. นายวรัญญู ปลัดอำเภอ ก็สอบถามไปที่ นายสุเมธ กำนัน ต.กลางดง ว่าตกลงประชุมที่ไหนแน่ นายสุเมธ ก็ยืนยันเปลี่ยนแปลงให้มาประชุม ที่ศาลาประชาคมคุ้มบ้านป่าเสียด

ต่อมาสายวันที่ 14 พฤศจิกายน หนังสือเรียกประชุมส่งถึง สำนักงานเทศบาลตำบลสีมามงคล รายละเอียดก็ยังระบุเรียกประชุมที่ศาลาประชาคมคุ้มบ้านมอหลักหิน ไม่มีการเปลี่ยนแปลง จึงได้ทำหนังสือ แจ้งไปว่าให้ระบุสถานที่ประชุมให้ชัดเจน จะได้ประชาสัมพันธ์ทางเสียงไร้สาย ของเทศบาลแจ้งให้ประชาชนทราบ จนกระทั่งช่วงเย็นวันที่ 14 พฤศจิกายนนายสุเมธ กำนัน ต.กลางดง ได้มอบหมายให้ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ประกาศเรียกประชุม แต่ประกาศให้ไปประชุมที่ศาลาประชาคมคุ้มบ้านโรงกุลี ที่อยู่ห่างไปประมาณ 2 กม. เมื่อมีชาวบ้านโทรศัพท์มาแจ้ง จึงได้โทรศัพท์ นำเรื่องเรียน นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ นายอำเภอปากช่อง ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แบบนี้ถือว่ากลั่นแกล้งชาวบ้าน ขนาดหนังสือของ นายสุเมธ กำนัน ต.กลางดง ยังแจ้งว่าชาวบ้านต้องการอุโมงค์ ทั้งที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องการสะพานคนข้ามน่าจะเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่มีเงื่อนงำไม่โปร่งใสและสร้างความแตกแยกระหว่างประชาชนกับหน่วยงานและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น