กรณีโซเชียลแชร์คลิปวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกันและมีการยิงปืนภายในงานเทศกาลลอยกระทงที่วัดแห่งหนึ่งพื้นที่ หมู่ 11 ต.บ้านโข้ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี โดยในคลิปมีข้อความระบุด้วยว่าคนเจ็บไม่กล้าแจ้งความ เนื่องจากถูกฝ่ายผู้ก่อเหตุข่มขู่เอาไว้ ต่อมา พ.ต.ท.ภูมิพัฒน์ พงศ์บุณย์ดี รอง ผกก.สส.สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้ประสานกับนายประมวล ทองศิลา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.บ้านโข้ง อ.อู่ทอง กับ นายบัณฑิต ศรีโปฏก อายุ 34 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ต.บ้านโข้ง พาตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองฝ่ายเข้ามาพบพนักงานสอบเพื่อสอบสวนข้องเท็จจริง

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 พ.ย. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายประมวล ทองศิลา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.บ้านโข้ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้พานายสมชาย ทองศิลา อายุ 25 ปี (หลานชาย) บ้านอยู่ หมู่ 2 ต.บ้านโข้ง อ.อู่ทอง พร้อมนำสิ่งเทียมอาวุธปืน BB.GUN ที่พกไว้ในวันเกิดเหตุมาเพื่อขอมอบตัวกับ พ.ต.ท.ภูมิพัฒน์ พงศ์บุณย์ดี รอง ผกก.สส.สภ.อู่ทอง ซึ่งนายสมชายให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลในภาพที่เข้าไปก่อเหตุชกต่อยนายวิรัตน์ นอมพันธุ์ หรือทุย อายุ 31 ปี บ้านอยู่หมู่ 11 ต.บ้านโข้ง อ.อู่ทอง ในคืนเกิดเหตุ

 

 

 

 

 

ขณะเดียวกันนายบัณฑิต ศรีโปฏก อายุ 34 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ต.บ้านโข้ง อ.อู่ทอง ได้พานายวิรัตน์ นอมพันธุ์ หรือทุย อายุ 31 ปี บ้านอยู่หมู่ 11 ต.บ้านโข้ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เข้ามาให้ปากคำกับตำรวจโดยนายวิรัตน์หรือทุย ให้การว่าก่อนเกิดเหตุได้นั่งดื่มสุรากับเพื่อนชื่อนายแม็คและนายต้อม กระทั่งนายวิรัตน์ หรือทุย เมาได้ที่จึงได้เดินไปชกต่อยนายแนท วัยรุ่นที่อยู่กลุ่มเดียวกับนายสมชาย ที่นั่งอยู่ใกล้กัน จากนั้นได้มีเหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้นก่อนแยกย้ายกันไป ระหว่างนั้นนายวิรัตน์หรือทุย เดินสวนทางกับนายสมชาย ภายในบริเวณงาน จึงถูกนายสมชายต่อยเข้าที่ใบหน้า 1 ครั้ง ตามภาพในคลิป ในคลิปยังเห็นด้วยว่านายสมชายถืออาวุธปืนไว้ในมือด้วย ต่อมาระหว่างที่เกิดเหตุชุลมุนได้มีเสียงปืนดังขึ้นมา 2 นัดทำให้วัยรุ่นต่างฮือแยกย้ายกันหลบหนีไป ส่วนนายวิรัตน์ นอมพันธุ์ หรือทุย (เสื้อคลุมสีน้ำเงิน) กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยว่าตามที่มีการแชร์คลิปในโลกโซเชียลว่าตนถูกทำร้ายจนซี่โครงหัก และไม่กล้าเข้าแจ้งความเนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพล เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะจริงๆแล้ววันนั้นตนไม่ได้เจ็บตัวอะไรมากมาย และเป็นคนไปต่อยหน้านายแนท (คู่กรณี) ก่อนจนถูกคู่กรณีมารุมทำร้าย แต่วันนี้ก็ได้มาเข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมกับขอโทษคู่กรณีและไม่ติดใจเอาความกัน เนื่องจากเป็นญาติพี่น้องกันอีกด้วย