เจ้าหน้าที่คณะงานพิเศษ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจภูธรสะบ้ายย้อย และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 บุกเข้าจับกุมขบวนการมอดไม้ ที่ลักลอบเข้าตัดไม้บนแนวสันเขาป่าเขาแดน เขาควนเจดีย์ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ตามนโยบายพลตรีจตุพร กลัมพสุต ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ภายหลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดี กรณีมีกลุ่มบุคคลต้องสงสัย เข้าลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ทั้งกลางวันและกลางคืนส่งขายพ่อค้า 

 

โดยทำเป็นขบวนการ เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเดินเท้าเข้าตรวจสอบบนภูเขาบริเวณบ้านทับยาง ม.8 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ได้ยินเสียงเครื่องเลื่อยยนต์ดังสนั่นลั่นป่า เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าปิดล้อม พบชาย 3 คนกำลังตัดไม้ เมื่อคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่ ได้ทิ้งเลื่อยยนต์ พากันวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง จากการตรวจสอบพบพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลายเสียหายได้ 2 ไร่ 3 งาน 40 ตารางวา รัฐได้รับความเสียหายประมาณ 427,500 บาท ตรวจพบสิ่งของที่คนทั้ง 3 ทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุประกอบด้วยเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 1 เครื่อง.มีดพร้า รองเท้าผ้าใบ รองเท้าบูท รวม 2 คู่ ไม้ท่อน ไม้หลา จำนวนหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ได้ไล่ติดตามจับกุมขยายผลตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี จนพบขนำเพิงพักในสวนยางพาราสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 คน ทราบชื่อภายหลังคือ นายสุลัยมาน เด็งสะนิ อายุ 29 ปี,นายอดินันท์ สะนิ อายุ 28 ปี,นายอาซัน ทุกัง อายุ 23 ปี,นายสนอง ทองกอบสม อายุ 23 ปีและนายนาบาวี แวกาจิ อายุ 41 ปี ทั้งหมดเป็นราษฎรในพื้นที่ จากการตรวจสอบรอบขนำเพิงพักพบน้ำต้มพืชกระท่อม 12 กิโลกรัม เครื่องเลื่อยยนต์ 2 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ นกคุ้มจำนวน 11 ตัว นกแก้ว นกแล จำนวน 3 ตัว นกปรอดหัวดำและนกปรอดเหลืองอีกอย่างละ 1 ตัว กรงดักนก เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำความผิด พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ร.บ.เครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ และพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ส่งให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสะบ้าย้อยดำเนินคดีตามกฎหมาย 

 

นอกจากนี้ กำลังอีก 2 ชุดได้เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณใกล้เคียงยังพบพื้นที่ป่าบริเวณ ม.2 ตำบลสะท้อน อำเภอนาทวี ถูกขบวนการมอดไม้เข้าตัดไม้เสียหายจำนวน 2 ไร่ 1งาน 42 ตารางวา ค่าเสียหายกว่า 3 แสน 5 หมื่นบาท ส่วนอีกจุดบริเวณ ม.8 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา พบพื้นที่ป่าถูกทำลายเสียหายจำนวน 4 ไร่ 91 ตารางวา ความเสียหายมูลค่า กว่า 6 แสน 3 หมื่น 4 พันบาท โดยเป็นการลักลอบตัดไม้ทำไม้ท่อน ไม้หลา ส่งขายให้นายทุน ซึ่งไม้ท่อนถูกลำเลียงไปแล้วก่อนหน้านี้แล้ว ทั้ง 2 จุด