"สัตวแพทย์หญิง" คาดต้องป้อนนม "เจ้ามาเรียม" อีก 1 ปีครึ่งจนกว่าจะแข็งแรง
17 มิ.ย. 2562, 13:36
ผู้สื่อข่าว onb news รายงานว่า ที่อ่าวดูหยง ใกล้เขาบาตู หมู่ 4 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง สัตวแพทย์หญิง ดร.นันทริกา ชันซื่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยทีมสัตวแพทย์กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ยังคงช่วยกันดูแลอนุบาล "เจ้ามาเรียม" พะยูนน้อย วัยประมาณ 6 เดือน ตามปกติ ทั้งการป้อนนม และป้อนหญ้าทะเล รวมทั้งการพายเรือแคนู หรือที่พะยูนน้อยเรียกว่า "แม่ส้ม" เพื่อพาเจ้ามาเรียม ออกกำลังกาย โดยในวันนี้มีการตรวจสุขภาพ และเก็บตัวอย่างเลือด วัดขนาดลำตัว ความยาว พร้อมกับถ่ายภาพส่วนหาง ซึ่งจะมีอัตลักษณ์ประจำตัวของพะยูนแต่ละตัว เพื่อไว้เป็นข้อมูล
สัตวแพทย์หญิง ดร.นันทริกา ชันซื่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ได้ร่วมกับทีมแพทย์ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตรวจสุขภาพร่างกายพะยูนน้อย โดยเฉพาะมีการเก็บตัวอย่างเลือดไปไว้เป็นฐานข้อมูล เพราะตามหลักการแล้วในการอนุบาลสัตว์ประเภทนี้ จะต้องมีการตรวจร่างกายเป็นระยะๆ และใน 1 ปีต่อไปจะต้องมีการเจาะเลือดตรวจบ้าง เผื่อว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นในร่างกายของมันบ้าง ล่าสุดในวันนี้สภาพร่างกายเจ้ามาเรียน แน่นขึ้น แต่ยังไม่ได้ตามคาดหวังไว้ เพราะบางช่วงทางสัตว์แพทย์ไม่สามารถให้อาหารได้เต็มที่ โดยอาหารชุดสุดท้ายจะให้ได้ในเวลาประมาณ 19.00 น. แต่หลังจากนั้นในเวลากลางคืนไม่สามารถป้อนอาหารให้ได้ เพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ด้วย จึงทำได้ไม่เต็มที่
ทั้งนี้ โดยหลักการแล้วจะต้องให้อาหารให้ได้วันละประมาณ 10 % ของน้ำหนักตัว หรือเจ้ามาเรียม จะต้องได้อาหารไม่ต่ำกว่าวันละ 3,000 มิลลิลิตร แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทำได้แค่ประมาณวันละ 2,500-2,700 มิลลิลิตร หรือยังน้อยไปประมาณ 2-3 % สำหรับอาหารที่ทีมสัตวแพทย์ได้เตรียมไว้ไว้ป้อนแต่ครั้ง จะประกอบด้วย นมแพะที่ไม่มีน้ำตาล ผสมกับสารอาหารหลายอย่าง และมีน้ำมันเพื่อให้พลังงาน โดยขณะนี้ฟันพะยูนน้อยเริ่มโผล่ขึ้นมาบนเหงือกแล้ว แต่ยังไม่พ้น ซึ่งทั้งหมดต้องขอขอบคุณความอดทนของทีมสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ที่ได้พยายามดูแลเจ้ามาเรียม อย่างเต็มที่ ซึ่งคาดว่าจะต้องดำเนินการเช่นนี้ต่อไปอีกประมาณ 1 ปี หรือ 1 ปีเศษ เพราะโดยปกติพะยูนจะต้องกินนมแม่จนอายุได้ 1.8-2 ปี จึงจะทิ้งนมและกินหญ้าทะเลอย่างเดียว ซึ่งก็เป็นปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายอย่างมากของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
ส่วนเรื่องการเตรียมแผนทำงานในช่วงฤดูมรสุมใหญ่ หนึ่งในนั้นคือ การทำบ่ออนุบาลชั่วคราวขึ้นบริเวณริมอ่าวดูหยง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการตัดสินใจที่ชัดเจน และยังต้องปรึกษากันหลายฝ่าย ทั้งกรมทรัพยากรทางทะเลฯ กรมอุทยานฯ รวมทั้งชาวบ้าน และชุมชน โดยเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง เตรียมจะนัดพูดคุยกับชาวบ้านในชุมชน เพื่อเสนอแนวทางนี้ พร้อมร่วมกันแสดงความคิดเห็น และวางแผนร่วมกัน เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และเจ้ามาเรียม โดยขณะนี้สิ่งที่ทีมแพทย์เป็นห่วงมากก็คือ เรื่องการเกยตื้น จึงต้องให้เจ้าหน้าที่คอยลาดตระเวนดูเจ้ามาเรียม เวลาน้ำลง รวมทั้งยังห่วงเรื่องการออกไปหากินหญ้าทะเลด้วยตัวเองของพะยูนน้อยด้วย