เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 23 พ.ย. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จนท.กู้ภัยมูลนิธิเต็กก่าจีคุงเกาะลำทับ จ.กระบี่ รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนถูกไฟช็อตบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนลำทับ-คลองท่อม หมู่ 2 ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม หลังรับแจ้งจึงเร่งเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ โดยกลางถนนที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วงบรรทุกถังผสมคอนกรีตขนาดใหญ่ จอดนิ่งอยู่ ชาวบ้านส่วนหนึ่งขึ้นไปบนถังผสมปูน เพื่อช่วยเหลือชายผู้ประสบเหตุทราบชื่อต่อมาคือ นายสรศักดิ์ ยางทอง อายุ 22 ปี บ้านอยู่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทราบว่าเป็นคนงานที่มาด้วยกันกับรถบรรทุกคันดังกล่าว จนท.เร่งเข้าช่วยเหลือ พบสภาพร่างกายมีร่องรอยถูกไฟไหม้เกือบทั่วตัว แต่เจ้าตัวยังพอมีความรู้สึก จนท.จึงเร่งปฐมพยาบาล และนำตัวส่ง รพ.ลำทับ

ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุ สอบถาม นายศุภัช เพชรบัว อายุ 52 ปี เจ้าของร้านตัดผม ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่หน้าร้านดังกล่าวพอดี ทราบว่า ช่วงที่เกิดเหตุ เห็นรถบรรทุกถังผสมปูนขนาดใหญ่ ขับผ่านมาทางหน้าร้าน มาจากทาง อ.ลำทับ กำลังมุ่งหน้าไปทาง อ.คลองท่อม มาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ใกล้กับเสาไฟฟ้าข้างถนน ซึ่งมีสายไฟพาดผ่านข้ามถนน แล้วสายไฟเกิดไปเกี่ยวเข้ากับถังผสมปูนที่บรรทุกมา รถคันดังกล่าวจึงจอดแล้วเห็นผู้ประสบเหตุ ปีนขึ้นไปเพื่อจะยกให้สายไฟพ้นจากขอบถัง ระหว่างนั้นตนเห็น ตนคิดอยู่ในใจว่าไปจับสายไฟแบบนั้นอาจจะช็อตได้ แล้วไฟก็ช็อตจริงๆ เกิดเสียงดังสนั่น ประกายไฟสว่างวาบ จนคนเจ็บล้มลงทั้งยืน คนงานของรถบรรทุกก็ช่วยกันขึ้นไปนำตัวลงมา ตนเองก็เข้าไปช่วยนำตัวเข้ามานั่งพักอยู่หน้าร้าน และบอกให้ภรรยาแจ้งหน่วยกู้ภัยให้มาช่วย โดยสภาพของคนประสบเหตุตอนนั้น มีอาการสะลึมสะลือแต่ยังพูดคุยตอบโต้ได้ พบตามตัวมีร่องรอยไฟไหม้ ผมบนศีรษะถูกไฟไหม้จนส่งกลิ่น ต่อมา จนท.กู้ภัยก็มาช่วยเหลือนำส่ง รพ. โดยปกติสายไฟที่พาดผ่านถนนจุดเกิดเหตุ ไม่เคยมีรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ขับผ่านแล้วไปเกี่ยวกับสายไฟ แต่รถคันดังกล่าวอาจจะบรรทุกสูงเกินไปหรือไม่ อย่างไรก็ตามอยากฝากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ ว่าสายไฟที่พาดข้ามถนนห้ามจับด้วยมือเปล่า หากจำเป็นต้องยกให้พ้นรถให้ใช้ไม้ไผ่ยาวยกค้ำขึ้นจะดีที่สุด

ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์อีก 2 ราย คือ นายพีรพงษ์ ลูกเมือง อายุ 23 ปี พนักงานร้านขายทองตรงข้ามจุดเกิดเหตุ และนางสุข บุญช่วย อายุ 90 ปี ต่างก็เล่าเหตุการณ์ตรงกันว่า ช่วงเกิดเหตุได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงหม้อแปลงไฟระเบิด พอมาดูอีกทีก็เห็นชายคนดังกล่าวถูกไฟช็อต ล้มลงบนถังผสมปูนที่บรรทุกมาบนรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวแล้ว นางสุข เล่าว่า ตนเห็นเหตุการณ์ตอนไฟช็อตอย่างชัดเจน ขณะที่กำลังนั่งอยู่ที่หน้าบ้าน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร เห็นชายหนุ่มคนดังกล่าวขึ้นไปจับสายไฟด้วยมือเปล่า เพื่อให้รถสามารถผ่านไปได้ ก็เห็นประกายไฟสว่างวาบ ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะล้มลง ตอนนั้นรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก แต่มาทราบว่าเจ้าตัวปลอดภัยแล้วก็สบายใจ ในส่วนของคนเจ็บ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ รพ.ลำทับ ทราบว่า นายสรศักดิ์ ยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ในห้องพิเศษของ รพ.โดยแพทย์ให้นอนรอดูอาการอยู่อีก 2-3 วัน โดยอาการเริ่มดีขึ้น เจ้าตัวสามารถพูดคุยได้ แต่ยังต้องนอนพักเพราะความบอบช้ำจากการถูกไฟช็อต ซึ่งทางญาติขอปฏิเสธไม่ให้บันทึกภาพ และไม่ขอให้ข้อมูลใดๆ ทราบจากเพื่อนร่วมงานว่า ก่อนเกิดเหตุรถบรรทุกถังผสมปูน กำลังมุ่งหน้าจะไปติดตั้งถังดังกล่าวให้กับลูกค้าที่ เกาะลันตา อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ แต่มาถึงที่เกิดเหตุ ถังเกิดไปเกี่ยวเข้ากับสายไฟ ซึ่งบางช่วงห้อยแบบตกท้องช้าง โดยยืนยันว่าถังปูนที่บรรทุกมา มีความสูงจากพื้นดินตามที่กฎหมายกำหนด คือไม่เกิน 5 เมตร อย่างแน่นอน รถบรรทุกคันดังกล่าวเองก็ขับผ่านจุดที่มีสายไฟพาดผ่านถนนหลายจุด ก็ผ่านมาได้ตลอด แต่มาถึงจุดเกิดเหตุก็พบสายไฟห้อยต่ำกว่าปกติ นายสรศักดิ์ จึงขึ้นไปยกสายไฟขึ้น ซึ่งเชื่อว่าสายดังกล่าวอาจมีกระแสไฟรั่วอยู่ จึงเกิดช็อตขึ้นดังกล่าว