เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำโขงที่ จ.นครพนม  ยังคงได้รับผลกรระทบอย่างหนักจากปัญหาภัยแล้ง ประกอบกับปีนี้ปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าหลายปีที่ผ่านมา บวกกับฝนทิ้งช่วง  รวมถึงผลกระทบจากเขื่อนกั้นแม่น้ำโขงในประเทศจีนและลาว ที่มีการเก็บกักน้ำไว้เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า  ทำให้ แม่น้ำโขงมีระดับน้ำต่ำกว่าทุกปี และลดระดับรวดเร็วในรอบ 50 ปี  โดยแม่น้ำโขงหลายจุด เกิดสันดอนทรายเป็นพื้นที่กว้าง กลางน้ำโขง และยังเกิดปรากฎการณ์ธรรมชาติ ที่สร้างความฮือฮาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ไม่เคยพบเห็นมาก่อน เนื่องจากระดับน้ำโขงแห้ง และมีสีฟ้าครามคล้ายทะเล  คาดว่ามาจากสาเหตุน้ำโขงแห้ง ทำให้น้ำนิ่งจนเกิดการตกตะกอน และน้ำเปลี่ยนสี  

อย่างไรก็ตามหลาย หน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชน ในพื้นที่ เริ่มวิตกกังวล ถึงผลกระทบ เนื่องจากเริ่มมีปัญหา ทั้งการเดินเรือ รวมถึง พื้นที่การเกษตร ริมตลิ่งแม่น้ำโขง เริ่มมีปัญหาในการสูบน้ำ เพื่อการเกษตร หลังน้ำโขงแห้ง ต้องย้ายจุดสูบน้ำระยะทางไกลเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว แบกภาระต้นทุนมากขึ้น

นอกจากนี้ หลังระดับน้ำโขงแห้งไม่เพียงส่งผลกระทบด้านการเกษตรเท่านั้น  ยังเริ่มส่งผลกระทบต่อการเดินเรือข้ามฟากไทยลาว บางจุดที่ยังมีการขนส่งผู้โดยสาร และขนส่งสินค้า ระหว่างจังหวัดนครพนมกับ แขวงคำม่วนของลาว รวมถึงจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทยลาว ตามจุดต่างๆ อีกหลายอำเภอที่ติดแม่น้ำโขง ต้องเดินเรืออ้อมหาดทราย ระยะทางไกลหลายเท่าตัว  ที่สำคัญยังเริ่มส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ทำให้เรือสำราญขนาดใหญ่ คือเรือสำราญแม่โขงพาราไดซ์ครูซ  ของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนครพนม ซึ่งเป็นเรือสำราญขนาดใหญ่ ที่รองรับประชาชน นักท่องเที่ยว ล่องเรือชมทิวทัศน์สองฝั่งโขงไทยลาว ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม  ต้องหยุดเดินเรือชั่วคราว เนื่องจากประสบปัญหาน้ำโขงแห้ง ไม่สามารถเดินเรือได้ปกติ เสี่ยงต่อการติดหาดทราย  จึงได้เปลี่ยนเป็นบริการนักท่องเที่ยว ให้ใช้พื้นที่ในการนั่งรับประทานอาหาร เครื่องดื่ม ชมธรรมชาติบนเรือที่จอดนิ่งอยู่ริมฝั่งแทน

ด้านนายณรงค์ เถาว์ศรี อายุ 62 ปี  รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.นครพนม เปิดเผยว่า  ในช่วงนี้ระดับน้ำโขงลดเร็วมาก ถือว่าผันผวนมากที่สุดรอบ หลายสิบ ปี  ตั้งแต่ตอนดูแลการเดินเรือท่องเที่ยวเทศบาลเมืองนครพนม มาหลายปี ปีนี้แปลกสุด น้ำโขงแห้งเร็ว และยังมีปรากฏการณ์ธรรมชาติสีฟ้าครามสวยงามเหมือนทะเล  ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หลายคนมองว่าสวยงาม แต่ตนมองว่ามันแฝงด้วยสัญญาณอันตราย สิ่งที่ตามมาคือภัยแล้ง รวมถึงระบบนิเวศน์ถูกทำลาย ปลาน้ำโขงจะลดลง อาจสูญพันธุ์ รวมถึงกระทบอาชีพประมงที่เคยมีรายได้  เพราะช่วงนี้ระดับน้ำโขงต่ำมาก และนิ่งไม่ไหลเชี่ยวตามธรรมชาติ  ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวทางเรือ ช่วงนี้ ต้องยอมรับว่า เริ่มได้รับผลกระทบ การเดินเรือต้องระมัดระวัง และเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือใหม่ เพราะร่องน้ำเดิมที่เคยเดินเรือได้เกิดสันดอนขึ้นจำเป็นต้องหาร่องน้ำเดินเรือใหม่ในช่วงหน้าแล้งเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายนที่จะถึงนี้  

นอกจากนี้ ในส่วนของเรือสำราญขนาดใหญ่ ได้รับผลกระทบแล้ว ต้องหยุดเดินเรือชั่วคราว เพราะร่องน้ำตื้นเขิน  เสี่ยงเรือเกยตื้น  สามารถล่องได้เฉพาะเรือเทศบาลขนาดเล็ก เท่านั้น  ซึ่งหากระดับน้ำโขงยังลดต่อเนื่อง คาดว่าจะส่งผลกระทบเรื่องการเกษตร รวมถึงการท่องเที่ยว มากขึ้นกว่าปัจจุบันนี้อย่างแน่นอน