จากกรณีคลิปร้อนแรง เหตุทะเลาะวิวาทภายในโรงเรียนเอกชน ที่อาม่าเดินเข้าไปตบหน้าเด็กนักเรียนชาย ก่อนจะโดนนักเรียนตอบโต้สวนกลับ ซึ่งถูกแชร์เป็นจำนวนมากในโลกออนไลน์วันที่ 20 ธ.ค. 62 ที่โรงเรียนอัสสัมชัญ ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ มิสรุ่งรัตน์ กมลศิริประเสริฐ หัวหน้าฝ่ายวิชาการ, มาสเตอร์ปริวัตร โวหาร หัวหน้าฝ่ายปกครอง และมาสเตอร์วรวัฒน์ เนื้อจีน ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายปกครอง ตัวแทนครูของโรงเรียน ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 18 ธ.ค. ช่วงหลังเลิกเรียน โรงเรียนได้พูดคุยกับผู้ปกครองของนักเรียน และอาม่าที่อยู่ในคลิปวิดีโอแล้วทั้งนี้ ทางโรงเรียนยืนยันว่า ไม่มีการสั่งพักเรียน และไม่ได้มีการลงโทษนักเรียน แต่ผู้ปกครองของนักเรียนมีความประสงค์ที่จะให้นักเรียนเลื่อนสอบกลางภาค และไปขอสอบหลังวันปีใหม่ เพราะในโอกาสวันคริสต์มาสกับวันปีใหม่ โรงเรียนจะหยุดการเรียนการสอน โดยผู้ปกครองขอให้นักเรียนหยุดพักผ่อน 2 วัน คือในวันพฤหัสบดีที่ 19 ธ.ค. จะเป็นวันหยุดอ่านหนังสือของเด็ก ม.3 อยู่แล้ว และวันศุกร์ที่ 20 ธ.ค. ซึ่งจะเป็นวันสอบกลางภาควันสุดท้ายของนักเรียนชั้น ม.3 เพราะอยากจะให้นักเรียนรู้สึกสบายใจขึ้น

 

ส่วนอาม่าในคลิปวิดีโอ เมื่ออารมณ์เย็นลงแล้ว ได้พูดคุยกับครูและผู้ปกครองของเด็ก ยอมรับว่ากระทำผิดเช่นกัน โดยทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้มีการกล่าวขอโทษกัน และยืนยันว่าลูกหลานอาม่าไม่ได้โกรธ และไม่ได้กลับมาทำร้ายใคร นายภพธร (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เล่าว่า เด็กชายในคลิปเรียนอยู่ชั้น ม.3 อายุ 15 ปี เรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนเองสอบถามจากคนที่อยู่ในเหตุการณ์ บอกว่าน้อง ม.3 ไปบอกกับอาม่าที่กำลังคุยกับผู้ปกครองคนอื่น ๆ ว่าอย่าคุยกันเสียงดัง เพราะเป็นเขตโรงเรียน เนื่องจากน้องกำลังอ่านหนังสืออยู่ ประกอบกับมีผู้ปกครองที่อยู่บริเวณนั้น ก็ตำหนิ่อาม่าด้วย จากนั้น อาม่าก็เกิดการไม่พอใจ โมโหจัด แล้วก็เดินมาตบน้องตามคลิป น้องจึงตรงเข้าไปกระชากหัวอาม่ากลับเช่นกัน

ตนเองมองว่าอาม่าเริ่มก่อน หากอาม่าคุยเบา ๆ และเห็นว่าเด็กกำลังอ่านหนังสืออยู่ เหตุการณ์แบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ตนเองในฐานะรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกัน ขอพูดในฐานะเด็กนักเรียนคนหนึ่ง อยากสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นในคลิปว่า โรงเรียนเป็นสถานที่เรียน ผู้ปกครองก็ไม่ควรที่จะคุยกันเสียงดัง ประกอบกับตรงที่คุยกันเป็นบริเวณที่ น้องม.3 และเด็กคนอื่น ๆ กำลังเคร่งเครียดกับการอ่านหนังสืออยู่ เด็กชายป้อง (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 เปิดเผยว่า ปกติแล้วบริเวณนั้นจะมีนักเรียนมานั่งทำการบ้าน และผู้ปกครองจะมานั่งรอเป็นประจำ เพราะเป็นลานอเนกประสงค์ ซึ่งอาจะมีเสียงดังบ้าง วันที่เกิดเรื่องทราบมาว่าอาม่าพูดคุยเสียงดัง และรบกวนเด็กที่กำลังติวสอบ เด็กในคลิปคงจะเดินมาตักเตือน เป็นเหตุให้อาม่าต่อว่าและทำร้ายร่างกาย

ส่วนนักเรียนในคลิป ตนไม่เคยพูดคุยเป็นการส่วนตัว แต่ทราบว่านิสัยคนดี เป็นคนอัธยาศัยดี ร่าเริง ชอบทำกิจกรรม หลังจากนี้ อยากให้โรงเรียนติดป้ายเตือนตามมุมอ่านหนังสือว่า “อย่าเสียงดัง” เพราะบางครั้งเวลานั่งอ่านก็มีเสียงรบกวน