จากกรณีพบศพนายจรัญ นาคแก้ว หรือบ่าว อายุ 42 ปี ชาว ต.เชียรเขา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรี ธรรมราช คนงานรับจ้างทำสวนถูกฆ่าฝังดินอำพรางคดีบริเวณป่าบ้านคลองชุน หมู่ที่ 13 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.62

 

 

เช้าวันนี้ พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ๆ เกี่ยวข้องนำผู้ต้องหาทั้ง 2 คือนายพิเชษฐ สังข์ศิลป์ชัย หรือโอ๋ อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 16/1 หมู่ 2 ต.ตะกุกเหนือ และนายสุรพงศ์ สุขแก้ว หรือจิ้งจก อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/1 หมู่ที่ 13 ต.ตะกุกเหนือ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จังหวัดไชยาที่ 52 และ 53/2562 ผู้ต้องหาฆ่านายจรัญ หลังให้การรับสารภาพข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ลอบฝังซ่อนเร้นศพ หรือปิดบังเหตุแห่งการตาย ไปทำแผนประกอยคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ โดยต้องเดินทางด้วยรถโฟล์วิลเพียงเท่านั้น เนื่องจากเป็นเส้นทางทุรกันดารในปาลึก

 

 

 

พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวว่า จากการสอบสวนนายพิเชษฐ์ ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุทั้งหมดนั่งอยู่ที่บ้านนายมานิตย์ ชูศร และเกิดการทะเลาะวิวาทกันโดยอ้างว่าผู้ตายได้ด่าบุพการีตนเองจึงใช้เท้าเตะผู้ตายจนตกจากเปลไป2 ครั้ง โดยครั้งแรกได้ยกมือไหว้ขอโทษก่อน แต่ผู้ตายยังด่าทออีก จึงได้เตะครั้งที่ 2 ต่อมานายมานิตย์ได้ห้ามปรามจนแยกย้ายกันไปแล้ว แต่ผู้ตายได้กล่าวก่อนไปว่าเดี๋ยวเจอกัน ทำให้ตนเกรงว่าผู้ตายต้องไปหาอาวุธมาทำร้ายตนอย่างแน่นอน จึงได้ขึ้นไปเอาอาวุธปืนที่ซุกซ่อนอยู่ยนขนำมาดักรอผู้ตาย ในระหว่างผู้ตายเดินกลับบ้าน ตนจึงเดินตามไปและเรียกผู้ตายให้หันมาก่อนปืนลูกซองยิงที่หน้าอก 1 นัด เมื่อผู้ตายล้มลง จึงเดินเข้าไปใช้ปืน 9 มม.ยิงซ้ำอีก 3 นัด ต่อมานายสุรพงศ์ ซึ่งได้แยกย้านไปก่อนตอนทะเลาะกัน กลับมาพบจึงช่วยนำจอบจากขนำ และร่วมกันลากศพข้ามลำห้วยไปขุดหลุมฝังที่จุดพบศพ โดยก่อนฝังได้ใช้มีดกรีดหน้าท้องเพื่อไม่ให้เน่าตามที่เคยทำตอนสมัยเป็นลูกเรือประมง หลังจากทำแผนเสร็จเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 มาสอบสวนเพิ่มเติม และเตรียมนำฝากขังในวันพรุ่งนี้

 

คลิป