เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



รวบแล้ว! ที่แท้สามีฆ่าโหด ภรรยาหมกป่าอ้อย


11 ม.ค. 2563, 17:26



รวบแล้ว! ที่แท้สามีฆ่าโหด ภรรยาหมกป่าอ้อย




จากกรณี เมื่อเวลา 23.00น. วันที่ 9 มกราคม พ.ศ.2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ร้องขอกำลังอาสาสมัครเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.ปราสาท เข้าร่วมตรวจสอบ กรณีพบชิ้นส่วนของมนุษย์ถูกไฟเผาไหม้ภายในป่าไร้อ้อยขณะทำการเผาอ้อยเตรียมตัดส่งโรงงานน้ำตาลสุรินทร์

หลังจากรับแจ้งจึงได้ประสานไปทาง ร ต อ.กิตติพิชญ์ เสนาบูรณ์ พนักงานสอบสวนเวรสถานีตำรวจภูธรกาบเชิง อ.กาบเชิง พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตำภูธรจังหวัดสุรินทร์ และแพทย์เวร รพ.กาบเชิง เดินทางไปชันสูตรศพ เป็นการเร่งด่วน

สถานที่เกิดเหตุบริเวณไร้อ้อยด้านท้ายของหมู่บ้านโคกเวง ม.10 ต.โคกตะเคียน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ต่อมาทราบชื่อเจ้าของไร้ นางปริด เครือมี อายุ 72 ปี ม.10 บ.โคกเวง ต.โคกตะเคียน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่ง นางปริด ผู้เป็นเจ้าของไร้อ้อยได้จ้างวาน นาย ประดุจ ลักขษร อายุ 65 ปี มารับจ้างตัดอ้อยและจุดไฟเผาอ้อยเพื่อจะเตรียมตัดอ้อยส่งโรงงานน้ำตาลสุรินทร์ ขณะเดินสำรวจหลังจากที่จุดไฟเผาเสร็จเรียบร้อยแล้วขณะที่ไฟได้สงบลงได้พากันเดินสำรวจตามตามไร่อ้อยและได้เหลือบไปเห็นจุดหนึ่งบริเวณกลางไร่อ้อยที่ยังมีกลุ่มควันและยังมีไฟลุกอยู่ยังดับไม่สนิท


 

 



จึงได้เรียกให้หลานชายเข้าไปดูพร้อมกันเพื่อจะได้ดับไฟดังกล่าว กลับพบอวัยวะกระดูกชิ้นส่วนของมนุษย์ถูกนำมาทิ้งในป่าอ้อยถูกไฟเผาไหม้ ตอนแรกตนคิดว่าเป็นซากกระดูกของสุนัขเลยไม่เอะใจอะไร เลยได้เรียกให้หลานวิ่งไปเอาไฟฉายมาส่องดูให้ชัดๆกลับพบว่าเป็นชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์ตนเองและหลานตกใจกลัวมากจึงพากันวิ่งหนีสุดชีวิตออกจากป่าอ้อยและได้ไปแจ้งกับ นายลอด เมินดี ผู้ใหญ่บ้าน ให้ทราบ หลังจากนั้นจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ แพทย์เวรชันสูตร รพ.กาบเชิง และเจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.กาบเชิง จุด อ.ปราสาท และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำการเข้าตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าเป็นการฆาตกรรมอำพรางซ้อนเร้นศพ ลักษณะถูกไฟเผาไหม้เหลือแค่เพียงอวัยวะบางชิ้นบางส่วนเท่านั้น

 



เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานอาจเป็นการฆาตกรรมเพื่ออำพรางซ้อนเร้นศพแล้วนำมาทิ้งไว้หลายเดือนแล้ว คาดว่าผู้ตายน่าจะเป็นตายนางสาว นาทวน ชาญศรี อายุ 52 บ้านเลขที่ 80 หมู่ 10 บ้านโคกเวง ต.โคกตะเคียน อ.กาบเชิง ซึ่งมีสติไม่สมประกอบ และผู้ลงมือสังหารคาดว่าจะเป็น นายเสมอ ช้อนกลิ่น อายุ 56 ปี ผู้เป็นสามี ขณะนี้ได้เดินทางไปรับจ้างตัดอ้อยที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี

 

ล่าสุดในวันนี้เวลา 13.00น. พ.ต.อ.จุลฑะ จันทน ผกก.สภ.กาบเชิง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กาบเชิง สามารถจับกุมตัวนายเสมอ ช้อนกลิ่น สามีผู้เสียชีวิต ได้ในเขตพื้นที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ขณะไปรับจ้างตัดอ้อย และนำตัวมาสอบปากคำ นายเสมอ ช้อนกลิ่น ได้รับสารภาพ ว่าเป็นคนลงมือฆ่านาสาวนาทวน ชาญศรี ภรรยา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ย.2563 ตัวเองได้มีปากเสียงกันกับ น.ส.นาทวน ภรรยา ได้ทำร้ายร่างกาย จนกระทั่ง น.ส.นาทวน แน่นิ่งไป ตนเองก็ได้อุ้มเอาร่าง น.ส.นาทวน ทิ้ง ในป่าอ้อย ท้ายหมู่บ้าน และไม่ห่างจากบ้านตนเองมากนัก แล้วกลับมาอยู่ที่บ้าน ชาวบ้านมาสอบถามหานางนาทวน ตนเองก็บอกว่าไม่รู้ ว่าเขาหายไปไหน แม้แต่ชาวบ้านค้นหา ตนเองก็ไม่ได้ออกตามหาด้วย จนกระทั่งเดินทางออกจากบ้านไปรับจ้างตัดอ้อยที่จังหวัดสุพรรณบุรี จนกระทั่งมีผู้พบศพ นางนาทวน ถูกไฟไหม้ ในป่าอ้อย ตำรวจไปตามจับตัวได้

จากนั้น พ.ต.อ.จุลฑะ จันทน ผกก.สภ.กาบเชิง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน พนักงานสอบสวนเวร สภ.กาบเชิง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอกาบเชิง ได้นำตัวนายเสมอ ช้อนกลิ่น ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านเลขที่ 80 บ้านโคกเวง ต.ตะเคียน อ.กาบเชิง ซึ่งเป็นบ้านของนายเสมอ เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยนายเสมอ ได้มีปากเสียงกัน ทะเลาะกัน ลงมือทำร้ายภรรยา ซึ่งเป็นที่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ซักเกร็งอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งเสียชีวิต และเอาผ้าห่อศพอุ้มไปทิ้งในป่าอ้อย ท้ายหมู่บ้าน ขณะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ มีชาวบ้านในหมู่บ้านที่ทราบข่าว พากันเดินทางมามุงดูและส่งเสียงด่าสาปแช่งด้วยความไม่พอใจ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง นำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถยนต์ออกจากหมู่บ้าน เพราะเกรงว่าจะถูกชาวบ้านรุมทำร้ายผู้ต้องหา และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กาบเชิง ดำเนินคดี ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ ผู้นั้นถึงแก่ความตาย และซ้อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย พฤติการณ์ในการจับกุม







Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.