วันที่ 13 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จากกรณีครอบครัวชาวจังหวัดสกลนคร  ที่ทำงานและสร้างครอบครัวที่ จ.ชุมพร  ถูกนายจ้าง สวนยางพารา ล่วงละเมิดทางเพศลูกสาว และหลาน  ปัจจุบันแม่ผู้เสียหายได้พาบุตรสาว และหลาน เดินทางกลับภูมิลำเนาที่จังหวัดสกลนคร  และโพสต์เฟซบุ๊กขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนว่าได้รับความเดือดร้อนต้องเลี้ยงดูบุตรชายหญิง ที่สติไม่สมประกอบ ไม่มีอาชีพและไร้บ้าน   โดยก่อนหน้านี้  มีหน่วยงานภาครัฐ องค์กรเอกชน และภาคประชาชนนำความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง    ความคืบหน้าของเรื่องนี้  วันนี้(13 ม.ค. 2563)  ที่บ้าน กลาง ต.กุดไห อ.กุดบาก จ.สกลนคร   นางวารุณี  ไพศาลธนวัฒน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสกลนคร   พร้อมด้วยกรรมการเหล่ากาชาด   นางจิราพร สุวรไตร หัวหน้ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสกลนคร   ได้ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ  มอบเครื่องอุปโภคบริโภค ผ้าห่มกันหนาว  และนำความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ  มอบแก่ครอบครัวผู้เสียหาย

 

นางวารุณี  ไพศาลธนวัฒน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสกลนคร   กล่าวว่า  เหล่ากาชาดจังหวัดสกลนคร  มีความห่วงใย  โดยเฉพาะเยาวชน  ซึ่งจะต้องได้รับการเยียวยาทางด้านจิตใจควบคู่ไปด้วย   ทุกฝ่ายได้ให้กำลังใจ และพร้อมให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวนางเอ (นามสมมติ)  ทั้งการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย  การมอบเครื่องอุปโภคบริโภค และเงินช่วยเหลือเบื้องต้น   การส่งเสริมอาชีพ  รวมถึงการศึกษาของเด็กๆ  นอกจากนี้พบว่า แม่เด็กมีความสามารถด้านการทำขนม   ซึ่งเราพร้อมที่จะส่งเสริมเป็นอาชีพ เพื่อสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง    ด้านนางจิราพร  สุวรไตร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสกลนคร    กล่าวว่า   คุณป้าอพยพกลับสกลนคร พร้อมกับลูก 2 คน และหลานอีก 1 คน  ปัจจุบันอาศัยที่พ่อแม่อยู่  และกำลังหาที่เพื่อสร้างบ้านเป็นการถาวร  แต่ด้วยฐานะยากจนขาดทุนในการก่อสร้าง  จึงได้ดัดแปลงสร้างที่อยู่อาศัยชั่วคราวก่อน    สำหรับลูกชายคนโตก็พิการ   ลูกหลานก็ยังเด็ก จึงมีความลำบากในการใช้ชีวิต  

 

ส่วนในเรื่องของคดีนั้น เกิดขึ้นเมื่อปี 2550 ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นนายจ้างของเด็ก ได้ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิง วัย 14 ปี เรื่อยมา โดยตัวเด็กกลัวจนไม่กล้าบอกใคร เก็บเป็นความลับมาโดยตลอด นอกจากนี้ ผู้ก่อเหตุยังได้กระทำผิดทางเพศแก่เด็กอีก 3 คน ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกันกับผู้ถูกข่มขืนรายแรก เรื่องได้รับการเปิดเผยมีการแจ้งความร้องทุกข์ เมื่อเดือนมีนาคม 2561 ซึ่งข้อกล่าวหาหลักๆก็คือ ภาคผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 13 ปีไปจากบิดามารดาโดยไม่มีเหตุอันควร กระทำการอนาจาร ถ้าบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปีไปทำการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวง พยายามกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปีที่อยู่ในสภาพไม่สามารถขัดขืนได้ คดีดังกล่าว ศาลจังหวัดชุมพรได้พิพากษามีความผิดจริง ให้จำคุกจำเลย 63 ปี แต่ตามกฎหมายจำคุกได้ไม่เกิน 50 ปี อย่างไรก็ดี แม้คดีจะสิ้นสุดแล้ว แต่ครอบครัวก็ถูกมองจากสังคม จนต้องอพยพจากบ้านที่ลงทุนสร้างด้วยหยาดเหงื่อแรงงาน กลับสู่ภูมิลำเนา อยากให้สังคมช่วยเหลือ