เมืองไทยเหลือไม่กี่คน "ช่างซ่อมพระเครื่อง" พระสมเด็จวัดระฆังหายาก ต่างชาติมาประจำ ทำมา 40 ปี
19 ม.ค. 2563, 10:29
วันที่ 19 ม.ค. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พระครูสถิต ธรรมานุวัตร เจ้าอาวาสวัดทับไทร ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี พาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 59 / 12 หมู่ 18 ต.บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี ของนายชัชชวิน ชินสถิต อายุ 69 ปี ช่างซ่อมพระเครื่องที่รู้จักกันดีในกลุ่มผู้นิยมพระเครื่อง โดยพระครูสถิตนำพระสมเด็จที่มีสภาพชำรุดในบางจุดซึ่งนำติดตัวมาด้วยให้นายชัชชวินซ่อม ทั้งนี้หลังจากหลังนายชัชชวินตรวจสอบพระเครื่องจากพระครูสถิตแล้ว ได้แจ้งให้ทราบว่า สามารถซ่อมได้ง่าย ไม่มีอะไรน่าหนักใจ เนื่องจากมีจุดชำรุดไม่มาก
พระครูสถิตเปิดเผยว่า ปัจจุบันคนต่างชาติ ทั้งจีน สิงคโปร์ ฮ่องกง ที่ชื่นชอบและสมสมพระเครื่องไทย ต่างนำพระสมเด็จ พระเครื่องมาให้นายชัชชวินซ่อมเป็นประจำ ส่วนอาตมาเมื่อมีโยมมาถวายพระเครื่องให้ หากพระเครื่องที่ได้รับมีสภาพชำรุดก็จะให้นายชัชชวิลซ่อมเช่นกัน ในวงการพระเครื่องทั่วประเทศหรือแม้กระทั่งในกลุ่มคนจีน สิงคโปร์ ฮ่องกง รู้กันดี ว่าช่างซ่อมพระเครื่องในเมืองไทยหาได้ยากมาก โดยเฉพาะช่างซ่อมพระสมเด็จวัดระฆังหาได้ยากที่สุด ช่างซ่อมพระเครื่องที่มีชื่อเสียง ต่างชาติและคนไทยให้การยอมรับในฝีมือคือนายสนิท คตชาคร เป็นช่างซ่อมมือหนึ่งที่รับซ่อมเฉพาะพระสมเด็จวัดระฆังแท้เท่านั้น ไม่แท้ไม่รับซ่อมก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว เมืองไทยจึงเหลือช่างซ่อมพระเครื่อง พระสมเด็จเพียงจำนวนน้อยนิด หนึ่งในจำนวนนี้คือนายชัชชวิน ซึ่งไม่เพียงอาตมาแต่จะนำพระสมเด็จ พระเครื่องมาให้ซ่อมหลายครั้ง แต่ลูกศิษย์ที่เป็นคนจีนได้ฝากพระสมเด็จวัดระฆังมาให้นายชัชชวินซ่อมหลายองค์ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะต่างชื่นชอบในฝีมือที่ซ่อมแล้วเนียนตา กลมกลืนเหมือนของเดิมมาก
นายชัชชวิน เปิดเผยว่า ซ่อมพระเครื่องต่าง ๆ รวมทั้งพระสมเด็จวัดระฆังมากว่า 40 ปี เริ่มซ่อมมาตั้งแต่เด็ก เริ่มจากซ่อมพระเครื่องของตัวเอง ต่อมาซ่อมพระเครื่องให้เฉพาะเพื่อน ๆ จนกระทั่งเริ่มมีคนนำพระเครื่องที่หาคนซ่อมไม่ได้ กับพระเครื่องแตกหักหรือแตกอละเอียดจนกระทั่งไม่เหลือเค้าโครงเดิมมาให้ซ่อม ตนก็ซ่อมให้จนกลับมามีสภาพเหมือนเดิมทุกอย่าง สร้างความพอใจให้เจ้าของพระเครื่องมาก จากนั้นเริ่มมีคนนำพระสมเด็จวัดระฆัง พระเครื่องราคาหลายล้านมาให้ซ่อมมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมแล้วเฉพาะพระสมเด็จวัดระฆังตนซ่อมไปแล้วกว่า 100 องค์ ผู้นำมาให้ซ่อมมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ มีทั้งขับรถเบ็นซ์มาหาแบบเป็นการส่วนตัว เพราะไม่อยาให้ใครรู้ว่านำพระเครื่องมาซ่อม กับฝากคนที่ไว้ใจนำมาให้ตนซ่อม
นายชัชชวิน เปิดเผยอีกว่า ในการซ่อมพระเครื่อง บางครั้งตนเคยถูกลองวิชาหรือลองความสามารถ เจ้าของพระสมเด็จวัดระฆังที่นำมาซ่อมกับตนอยากรู้ตนจะมีฝีมือแค่ไหน จึงนำพระสมเด็จที่ตนซ่อมเข้าประกวดพระเครื่อง ปรากฏว่าได้รางวัลที่ 2 หรือรองชนะเลิศ เจ้าของพระดีใจมาก มอบพระสมเด็จเกศปกโพธิ์ที่มูลค่า 3,000,000 บาทที่นำเข้าประกวดด้วยอีกองค์ และได้รางวัลที่ 6 มอบให้ตนเป็นรางวัล เป็นค่าซ่อมพระเครื่อง โดยกรรมการดูไม่ออกว่าเป็นพระสมเด็จที่ซ่อมมา เพราะไม่มีตำหนิ จึงได้รางวัล ซึ่งตามกติกาแล้วหากพบว่าพระเครื่องมีตำหนิหรือชำรุดจะถูกคัดออกจากการประกวดทันที หลังจากนั้นตนอยากลองดูเองบ้างว่า ฝีมือตัวเองจะถึงขั้นได้ที่ 1 หรือไม่ จึงซ่อมพระสมเด็จส่งเข้าประกวดเอง ผลลัพธ์ออกมาคือตนชนะการประกวดได้ที่ 1 เรื่องนี้ในผู้ชื่นชอบพระเครื่องรู้กันดี
นายชัชชวิน เปิดเผยต่อไปว่า สำหรับการซ่อมพระเครื่อง พระสมเด็จ ตนใช้น้ำยาที่เป็นสูตรเฉพาะ ได้มาจากประเทศอิตาลี ส่วนมวลสารต่าง ๆ ของพระเครื่องแต่ละองค์ได้มาจากธรรมชาติ จากสิ่งต่าง ๆ รอบ ๆ ตัว พระเครื่องแต่ละองค์เหมือนคนแต่ละคน มีหน้าตาไม่เหมือนกัน มวลสารที่นำมาซ่อมจึงต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนว่าจะต้องใช้อะไรทนแทนมวลสารเดิม สำหรับพระเครื่องที่ตนใช้เวลาซ่อมนานที่สุดคือ “พระปางลีลาเม็ดขนุน” ราคาพระเครื่ององค์นี้ 10 ล้านบาท เจ้าของพระนำมาให้ซ่อมในสภาพหลังองค์พระหายไปครึ่งหนึ่ง กว่าจะซ่อมแล้วเสร็จใช้เวลาถึง 2 เดือน เนื่องจากยากทั้งการซ่อมและการหามวลสารให้เหมือนมวลสารเดิม
"หลักในการซ่อมพระ ผมใช้หลักอานาปานสติ คือมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการซ่อมพระ บางครั้งไม่รู้จะใช้มวลสารอะไรมาซ่อมพระเครื่องบางองค์ ในช่วงที่กำลังมีสมาธิเต็มที่ ทำให้คิดออกเรื่องนี้ การทำซ่อมพระสำเร็จด้วยดีทุกองค์" นายชัชชวินกล่าวในที่สุด.