ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ในโลกออนไลน์มีการแชร์ข้อความจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่มีข้อความระบุว่า "12/1/63 นิมนต์พระมาเทศน์ถวายรูปละ 4 พัน 5 พัน กล้าให้ ลิเกมาเล่นราคา 6 หมื่น กล้าให้ บัดเอาลูกมาบวชถวายพระคู่สวด 600 บาท ยังกล้าถวายหนอ นี่ก็บวชหน้าไฟ 2 ร้อยบาท ยังกล้าถวายอยู่หนอ คุณโยมเอ๋ย แบบนี้ใครมาขอบวชหน้าไฟ บวชหน้าอะไรก็แล้วแต่ ทีหน้าทีหลัง ไม่ต้องจัดซองมาถวายปัจจัยอะไรก็ได้ดอกโยมเอ๋ย ก็จะสงเคราะห์ให้โยมอยู่พระอุปัชฌาย์เป็นกันได้ง่ายๆ หรือ อย่าทำเป็นเล่นไป กว่าจะอบรมสอบผ่านได้มาไม่ได้ง่ายดอก ถ้างั้นพระทุกรูปได้เป็นพระอุปัชฌาย์กันหมดแล้ว เดี๋ยวจะบวชให้ฟรีๆ ไปเลย เอาแค่ข้าว น้ำ ภัตตาหารเช้า-เพล มาถวายเป็นเครื่องบูชา อาตมาคิดว่าอยู่ได้สบายเลยหนาโยมเอ๋ย" โดยล่าสุดทางผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับทางผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาเผยพูดจริงแต่แฝงไปด้วยแง่คิด

 

 

          ด้าน นายวินัย ปุณยวัชตปรีดา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา เปิดเผยกับทางผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า จากเหตุการณ์ที่พระได้มีการโพสต์ลงบนโซเชียล จนทำให้เกิดเป็นข่าวทางสำนักงานพระพุทธศาสนาได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบถึงพฤติกรรมดังกล่าว ทางพระครูสุนทรปัญญาพิมล ได้กล่าวว่าท่านไม่ได้มีเจตนาเกี่ยวกับเงินทอง ถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลาพระบ่นหรือการพูดคุยหยอกเล่นกับชาวบ้านไม่เป็นไร แต่สมัยปัจจุบันนี้มีโซเชียลเข้ามามีการลงโซเชียล เลยไม่เข้าใจในการหยอกหรืออะไร แต่ในการลงโซเชียลก็มีการสอนด้วย แต่จริงๆ ญาติโยมไม่มีเงินมีทองอะไรให้มาบอกท่านก็ได้ช่วยเหลือมาตลอด แต่เห็นว่าทางเจ้าภาพมีเงินมีทองก็เลยโพสต์ลงบนโซเชียลโดยไม่ทันคิด ท่านก็ได้มีการยอมรับผิดแต่โดยเจตนาท่านไม่ได้จะทำให้ถูกตำหนิ หรือต้องการเงินทองอะไร  และทางเจ้าคณะจังหวัดจะมีการประชุม, ชี้แจงกำชับและตรวจสอบสำหรับพระสงฆ์และคณะสงฆ์ในการจะลงอะไรต้องช่วยกันตรวจสอบ